วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

อนาคตเมืองในประเทศไทย ของกรมโยธาธิการและผังเมือง

อนาคตเมืองในประเทศไทย ของกรมโยธาธิการและผังเมือง 

ด้วยเหตุนี้  Galina Tachieva และนักผังเมืองกลุ่มหนึ่งจึงได้ร่วมกันค้นหาสาเหตุการกำเนิดรูปทรงเมืองที่กระจัดกระจายและได้นำเสนอกลยุทธ์การปรับปรุงฟื้นฟูกายภาพเมืองให้แปรสภาพเป็นเมืองแบบสมบูรณ์ ทั้งนี้ กลยุทธ์ส่วนใหญ่ที่นำมาใช้เป็นการปรับปรุงฟื้นฟูเมืองแบบเบ็ดเสร็จ (Infill) และการซ่อมสร้างความสมบูรณ์ของพื้นที่ (Retrofit or Repair) ซึ่งได้นำองค์ความรู้ทางด้านการออกแบบชุมชนเมือง (Urban Design) ในการปรับปรุงฟื้นฟู  ผู้เขียนเห็นว่าองค์ความรู้เหล่านี้อาจนำมาประยุกต์ใช้เพื่อแก้ไขการกระจัดกระจายของเมืองในประเทศไทยได้ อย่างไรก็ตาม  เนื่องจากเทคนิคในการปรับปรุงฟื้นฟูพื้นที่มีเนื้อหาต้องกล่าวถึงเป็นจำนวนมาก ดังนั้น  บทความฉบับนี้จะกล่าวเฉพาะที่มาของกระจัดกระจาย และขั้นตอนโดยสรุปในการปรับปรุงฟื้นฟู  


การก่อกำเนิดการกระจัดกระจาย
            เมืองหรือชุมชนดั้งเดิมมักตั้งถิ่นฐานอย่างกระชับอยู่ในพื้นที่ที่ถูกควบคุมทางภูมิศาสตร์ รอบพื้นที่เมืองจะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแหล่งอาหารและแหล่งน้ำ เมื่อเศรษฐกิจเติบโตขึ้น  เนื้อเมืองจะเริ่มแผ่ขยายออกไปตามเส้นทางคมนาคมที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างย่านและเมืองอื่นๆ (Strip Pattern) ต่อจากนั้น  เมื่อพื้นที่สองข้างเส้นทางคมนาคมเริ่มหนาแน่น   เนื้อเมืองจะเริ่มแผ่ขยายออกจากเส้นทางในลักษณะกระจายเป็นหย่อมๆ หรือกระจัดกระจายแบบก้าวกระโดด (Leapfrog Pattern) ไม่มีความต่อเนื่องกันและรุกล้ำพื้นที่การเกษตร  จากปริมาณของประชากรที่เพิ่มขึ้นทำให้รัฐต้องลงทุนก่อสร้างโครงข่ายถนนเพื่อรองรับการสัญจร เมื่อโครงข่ายการสัญจรได้รับการพัฒนาจนเกิดความสะดวกในการเดินทาง ประชากรในเขตชั้นในของเมืองจึงได้หลั่งไหลออกมาซื้อหาที่อยู่อาศัยในย่านชานเมือง และได้เกิดโครงการจัดสรรอาคารพักอาศัยประเภทบ้านเดี่ยวที่เติบโตในแนวราบเป็นจำนวนมาก ภาวะการเติบโตในแนวราบเป็นสภาพการกระจัดกระจายแบบแผ่ขยายเต็มพื้นที่ (Conurbation) ซึ่งถือว่าเป็นการกระจัดกระจายแบบสมบูรณ์ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาทางกายภาพต่อเมืองนานับประการ

            เพื่อให้เข้าใจพัฒนาการอย่างชัดแจ้ง Tachieva  จึงได้สรุปขั้นตอนการกระจัดกระจายการออกเป็น 3 รุ่น  ดังนี้
            พัฒนาการรุ่นแรก (First-Generation Suburbs) เป็นการแผ่ขยายเนื้อเมืองตามแนวรถไฟฟ้าและถนนสายหลักที่ออกสู่ย่านและเมืองอื่นๆ ในขั้นตอนนี้เนื้อเมืองยังไม่รุกล้ำพื้นที่การเกษตรมากนักเนื่องจากยังไม่มีการตัดถนนสายย่อยเชื่อมต่อระหว่างกลุ่มที่พักอาศัย ชุมชนที่กระจายยังคงเกาะแนวขอบเส้นทางและรอบสถานีรถไฟ

 ภาพพัฒนาการการกระจัดกระจายรุ่นแรก
  ที่มา : Galina Tachieva, Sprawl Repair Manual, 2010

            พัฒนาการรุ่นที่สอง (Second-Generation Suburbs) ชุมชนเริ่มกระจัดกระจายออกนอกใจกลางเมือง ทำให้ใจกลางเมืองลดความหนาแน่นลง การจัดสรรที่ดินและบ้านเดี่ยวเริ่มแผ่ขยายมากขึ้นพร้อมกับการก่อสร้างโครงข่ายถนนสายหลักและรองเชื่อมต่อในชุมชนชานเมืองเกิดใหม่ ลักษณะการสัญจรด้วยรถยนต์เริ่มมีความเด่นชัดมากขึ้นในระยะนี้  พื้นที่พาณิชยกรรมรอบสถานีขนส่งและสองข้างทางยังมีความหนาแน่นเช่นเดิม

ภาพพัฒนาการการกระจัดกระจายรุ่นที่สอง
ที่มา : Galina Tachieva, Sprawl Repair Manual, 2010

            พัฒนาการรุ่นที่สาม (Third-Generation Suburbs)  การกระจัดกระจายแบบสมบูรณ์เต็มพื้นที่ย่านชานเมือง พื้นที่การเกษตรถูกรุกล้ำด้วยโครงการบ้านจัดสรรและอาคารพาณิชยกรรมที่กระจายตามแนวถนน ปัญหาการคับคั่งการจราจรได้ก่อให้เกิดมลภาวะและปัญหาสภาวะแวดล้อม พื้นที่ใจกลางเมืองลดความหนาแน่นลงอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ย้ายออกสู่ย่านชานเมือง

ภาพพัฒนาการการกระจัดกระจายรุ่นที่สาม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น