8.1.2 สัญลักษณ์ต่าง ๆ
วิธีการออกแบบด้วยตัวแบบอี-อาร์จะมีการแสดงกลุ่มของข้อมูล และความสัมพันธ์ออกมาเป็นแผนภาพ โดยใช้สัญลักษณ์ต่าง ๆ ดังนี้
สัญลักษณ์พื้นฐาน ความหมาย



4. อัตราส่วนความสัมพันธ์ของแถวข้อมูลระหว่างสองเอนทิตี้ (Cardinality Ratio) มี 3 ชนิด คือ 1 ต่อ 1 (One to One)
1 ต่อ หลาย (One to Many) หรือ กลับกัน
และหลายต่อหลาย (Many to Many
ต่อ 1 (to One)
ต่อหลาย (to Many) คือ ต่อ 1 หรือมากกว่า
ต่อ 0 หรือ 1 (to zero or one)
ต่อ 0 หรือมากกว่า (to zero or more)
ต่อมากกว่า 1 (to More than 1) คือ ต่อมากกว่า 1
สัญลักษณ์เพิ่มเติม ความหมาย

กับเอนทิตี้อื่น ถ้าไม่มีเอนทิตี้นั้นก็จะไม่มีเอนทิตี้ชนิด
อ่อนแอนี้)


เป็นความสัมพันธ์ระหว่าง 2 เอนทิตี้ขึ้นไป ซึ่งเป็นแบบ
หลายต่อหลาย และจะถูกแปลงให้เป็นตารางในที่สุด)


Relationship : เป็นความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี้ที่เป็น
ชนิดอ่อนแออย่างน้อย 1 เอนทิตี้


ในตาราง Supplier โดยผู้จัดส่งแต่ละรายมีเมืองที่ตั้งหลาย
แห่ง CITY ก็จะกลายเป็นคุณสมบัติแบบมีหลายค่า)
9. เส้นคู่แสดงความสัมพันธ์แบบ Total Participation เช่น
พนักงานทุกคนในตาราง Emp ต้องสังกัดแผนกใดแผนก
หนึ่งในตาราง Dept อย่างนี้ถือว่าเป็น Total Participation แต่ถ้าบางแผนกไม่มีพนักงานในสังกัดเลยถือว่าเป็นความ
สัมพันธ์แบบ Partial Participation
8.1.3 ลักษณะของตัวแบบอี-อาร์ ประกอบด้วย
1. เอนทิตี้
2. คุณสมบัติ (Property) ของเอนทิตี้ ซึ่งก็คือ แอตทริบิวต์ของรีเลชั่น เป็นรายละเอียดของข้อมูลในเอนทิตี้ใด ๆ โดยอาจจะมีหน้าที่เป็นคีย์หลัก (Primary Key) คีย์ประกอบ (Composite Keys) คีย์นอก (Foreign Key) หรือเป็นแอตทริบิวต์ธรรมดา (Nonkeys)
3. ความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี้ (หรืออัตราส่วนความสัมพันธ์ของแถวข้อมูลระหว่างสองเอนทิตี้) อาจเป็นความสัมพันธ์แบบใดแบบหนึ่งดังต่อไปนี้เป็นอย่างน้อย
3.1 แบบหนึ่งต่อหนึ่ง (One to One) ใช้ตัวย่อว่า 1:1
3.2 แบบหนึ่งต่อหลาย (One to Many) ใช้ตัวย่อว่า 1:N
3.3 แบบหลายต่อหลาย (Many to Many) ใช้ตัวย่อว่า M:N
8.1.4 ขั้นตอนในการออกแบบฐานข้อมูลโดยใช้แผนภาพอี-อาร์
1. วิเคราะห์งานในระบบธุรกิจ
2. กำหนดเอนทิตี้ในระบบและคุณสมบัติเบื้องต้น
3. กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี้
4. ร่างแผนภาพอี-อาร์ ตามเอนทิตี้และความสัมพันธ์ที่กำหนดไว้
5. ทบทวนและปรับปรุงรายละเอียดของเอนทิตี้ คุณสมบัติ และความสัมพันธ์ รวมทั้งกำหนดคีย์
ต่าง ๆ
6. แปลงแผนภาพอี-อาร์ เป็นรีเลชั่น ตามหลักเกณฑ์ที่แนะนำ
7. จัดทำพจนานุกรมข้อมูลจากรีเลชั่นและรายละเอียดที่เตรียมไว้
ตัวอย่างการออกแบบโดยใช้แผนภาพอี-อาร์ ตามขั้นตอนที่เสนอแนะข้างต้น
1. วิเคราะห์งานในระบบ
ระบบงานจริงย่อมจะมีความละเอียดซับซ้อนและจะเป็นระบบใหญ่เป็นส่วนมาก แต่เพื่อเป็นแนวทางในการทำความเข้าใจตามข้อจำกัดของเวลาในการเรียนรู้และพื้นที่หน้ากระดาษ จึงจะขอนำมาเป็นตัวอย่างเฉพาะบางส่วนของระบบงานทั้งหมด
ระบบงานที่จะนำมาเป็นตัวอย่างต่อไปนี้เป็นระบบบริหารสถานศึกษา เพียงบางลักษณะที่สนใจเท่านั้น
2. กำหนดเอนทิตี้และคุณสมบัติเบื้องต้น
2.1 TEACHER เป็นเอนทิตี้ที่แสดงรายละเอียดของอาจารย์ในสถานศึกษา มีคุณสมบัติเบื้องต้น คือ รหัสอาจารย์ ชื่อ นามสกุล เป็นต้น
2.2 DEPARTMENT เป็นเอนทิตี้ที่แสดงรายละเอียดของแผนกวิชา หรือแผนกงาน มีคุณสมบัติเบื้องต้น คือ รหัสแผนก ชื่อแผนก เป็นต้น
2.3 DEPENDANT เป็นเอนทิตี้ที่แสดงรายละเอียดของสมาชิกในครอบครัวขออาจารย์ โดยที่เป็นเอนทิตี้ชนิดอ่อนแอ (Weak Entity) มีความสัมพันธ์โดยตรงกับเอนทิตี้ TEACHER มีคุณสมบัติเบื้องต้น คือ รหัสคนในครอบครัว ชื่อ นามสกุล ความสัมพันธ์ เป็นต้น
2.4 CLASS เป็นเอนทิตี้ที่แสดงรายละเอียดของชั้นเรียนที่อยู่ภายใต้การให้คำปรึกษาของอาจารย์ มีคุณสมบัติเบื้องต้น คือ รหัสชั้น ชื่อชั้น ภาคเรียนเริ่มต้น ภาคเรียนปัจจุบัน เป็นต้น
สมมติว่าระเบียบปฏบิตของสถานศึกษากำหนดไว้ดังนี้
- อาจารย์หนึ่งคนจะต้องสังกัดอยู่เพียงหนึ่งแผนกเท่านั้
- ชั้นเรียนหนึ่ง ๆ จะมีอาจารย์หลายคนจากแผนกใด ๆ มาเป็นที่ปรึกษาก็ได้ ปรกติชั้นละ 3 คน
- ชั้นเรียนหนึ่ง ๆ จะมีรหัสเฉพาะไม่ซ้ำกันเลยในระบบ เมื่อชั้นเรียนเลื่อนระดับไป เช่น ชั้นปีที่ 2 ชื่อชั้นจะเปลี่ยนไป แต่เลขรหัสจะยังคงเดิม
- อาจารย์คนหนึ่งเป็นที่ปรึกษาได้หลายชั้น แต่เป็นได้เพียงปีละ 1 ชั้น เท่านั้น
3.1 ความสัมพันธ์ชื่อ “WORK-IN” (ทำงานสังกัดในแผนกใด) เป็นความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหลาย ระหว่างเอนทิตี้ DEPARTMENT กับ TEACHER ดังรูป

1 N
DEPARTMENT WORK-IN TECHER
3.2 ความสัมพันธ์ชื่อ “SUPERVISE” (บังคับบัญชา) เป็นความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหลายระหว่างเอนทิตี้ TEACHER (SUPERVISOR ในฐานะผู้บังคับบัญชา) กับ TEACHER (SOBORDINATE ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา) ดังรูป

TEACHER
1 N
SUPERVISOR SUBORDINATE
SUPERVISE
3.3 ความสัมพันธ์ชื่อ “ADVISE” (ให้คำปรึกษา) เป็นความสัมพันธ์แบบหลายต่อหลายระหว่างเอนทิตี้ CLASS กับ TEACHER ดังรูป

M N
TEACHER ADVISE CLASS
ซึ่งอาจเขียนได้อีกแบบหนึ่ง ดังนี้


TEACHER ADVISE CLASS
3.4 ความสัมพันธ์ชื่อ “SUPPORT” (อุปการะ) เป็นความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหลาย ระหว่างเอนทิตี้ TEACHER กับ DEPEMDANT ดังรูป

1 N
TEACHER SUPPORT DEPARTMENT
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น