วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ปี 2554

สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ปี 2554

 เกาะช้าง

          เกาะช้าง...เกาะยอดฮิตตลอดกาล อาจเพราะมีธรรมชาติอันงดงามทั้งบนบกและในทะเล มีหาดทรายขาวละเอียดที่สะอาดบริสุทธิ์ อีกทั้งยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ที่สำคัญคือสามารถไปท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ ความงดงามของ เกาะช้าง หรือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง จังหวัดตราด เกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ ก็ยังคงสวยงามเสมอ

          ทั้งนี้ สภาพโดยรวมบนเกาะช้างพื้นที่กลางเกาะเป็นภูเขาและป่าดิบชื้น มีที่ราบอยู่ตามขอบเกาะก่อนถึงชายหาดของอ่าวต่าง ๆ ที่ราบเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นสวนมะพร้าว สวนยางพารา และสวนผลไม้อื่น ๆ แต่ส่วนใหญ่แล้วพื้นที่ของเกาะช้างเป็นภูเขาสูง มีหินผาสลับซับซ้อน ยอดเขาที่สูงที่สุด ได้แก่ ยอดเขาสลักเพชร อันเป็นแหล่งกำเนิดของน้ำตกและลำธารหลายสาย ที่หล่อเลี้ยงผู้คนและสรรพชีวิตบนเกาะ และมีพื้นที่บางส่วนที่เป็นสวนยางพาราและสวนผลไม้ด้วย

          สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะช้างก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หาดทรายขาว หาดคลองพร้าว หาดไก่แบ้, บ้านสลักคอก, อ่าวสลักเพชร – บ้านสลักเพชร,บริเวณยุทธนาวีเกาะช้าง, หาดบางเบ้า – หมู่บ้านประมงบางเบ้า ฯลฯ และมีเกาะขนาดเล็กรายล้อมอยู่อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับท่องเที่ยวเกาะช้าง คือ ช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน เพราะเป็นช่วงคลื่นลมสงบ ส่วนช่วงเวลาระหว่างเดือนพฤษภาคม-กันยายน เป็นช่วงฤดูมรสุม ทะเลมีคลื่นลมแรง โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคม ส่วนเดือนสิงหาคมมีฝนตกชุกที่สุด นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบสภาพอากาศและคลื่นลมในทะเลก่อนเดินทาง

เขาใหญ่

          เรียกได้ว่าชื่อของ เขาใหญ่ หรือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มักติดโผสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอันดับต้น ๆ ของเมืองไทยเสมอ เพราะธรรมชาติที่เขียวขจีของผืนป่า ความเย็นฉ่ำของน้ำตก ความสดชื่นขอสายน้ำ ทำให้นักเดินทางมักแวะเวียนไปท่องเที่ยว ซึ่งเขาใหญ่มีอาณาเขตครอบคลุม 4 จังหวัด คือ จังหวัดสระบุรี  นครราชสีมา ปราจีนบุรี และนครนายก อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานานาชนิด ตลอดจนมีลักษณะทางธรรมชาติที่สวยงาม ทำให้เขาใหญ่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก ในปี 2548

          สำหรับลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูง และยังประกอบด้วยทุ่งกว้างสลับกับป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ในฤดูร้อนดอกไม้ป่ามีหลากสีบานสะพรั่ง บ้างออกผลตามฤดูกาล ฤดูฝนป่าไม้ทุ่งหญ้าเขียวขจี น้ำตกทุกแห่งไหลแรงส่งเสียงดังก้องป่า และฤดูหนาวช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นฤดูที่นักท่องเที่ยวมากที่สุด ท้องฟ้าแจ่มใส ป่าไม้เขียวขจี

          ส่วนแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่, น้ำตกกองแก้ว, น้ำตกผากล้วยไม้, น้ำตกเหวสุวัต, หอดูสัตว์, น้ำตกเหวนรก นอกจากนี้ บริเวณใกล้ ๆ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวชิค ๆ อีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น Palio, The SmokeHouse, Primo Posto, ตลาดน้ำกลางดง และฟาร์มโชคชัย ฯลฯ

          ทั้งนี้ อุทยานฯ มีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว วันละ 2,000 คน ดังนั้น ผู้ประสงค์จะเข้าไปเที่ยวในอุทยานฯ กรุณาสอบถามหรือติดต่อล่วงหน้าที่ โทรศัพท์0 3736 5033, 08 1877 3127, 08 6092 6531 (ตลอด 24 ชั่วโมง)

เกาะล้าน

          ใครจะเชื่อว่าทะเลที่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไม่มากนัก จะมีน้ำทะเลที่ใสสะอาด หาดทรายขาวนวลชวนสัมผัสซะขนาดนี้ จึงไม่ต้องแปลกใจหาก เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี จะกลายเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง ที่เหล่าบรรดานักเดินทาง ต่างพากันแวะเวียนไปเยือนตลอดทั้งปี

          อีกทั้งบนเกาะล้านยังมีชายหาดที่สวยงามหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นหาดตาแหวน, หาดสังวาลย์, หาดทองหลาง, หาดแสม และหาดเทียนหาดนวล ซึ่งส่วนใหญ่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำ เพราะน้ำทะเลที่เกาะล้านนี้ใสมาก ๆ แถมยังเย็นชื่นใจอีกด้วย หรือจะเลือกไปดำน้ำดูปะการัง เล่นกีฬาทางน้ำ ไม่ว่าจะเป็น "เรือลากร่มชูชีพ" สำหรับผู้ที่ชอบหวาดเสียว "เรือสกี" สำหรับผู้ที่ชอบความท้าทาย หรือจะเลือกมันส์ไปกับ "สกู๊ตเตอร์" ก็ไม่มีใครว่า

          หากเล่นทะเลจนเบื่อแล้ว ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปกินลมชมวิวชิว ๆ กันต่อที่ "จุดชมวิวเขานม" เป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดของเกาะล้าน ตั้งอยู่บริเวณเขานมใกล้ ๆ กับหาดแสม นักท่องเที่ยวสามารถเดิน หรือใช้บริการรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างขึ้นไปชมความสวย งามของท้องทะเลสีครามกับตัวเมืองพัทยา ที่ธรรมชาติช่างสร้างสรรค์ได้งดงามกลมกลืน ดุจภาพวาดที่ทุกคนต้องประทับใจ

เกาะเสม็ด

          เกาะงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย สำหรับ เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง เสน่ห์มัดใจของที่นี่ นอกจากจะมีชายหาดขาวสะอาด น้ำทะเลเย็นใสน่าสัมผัสแล้ว ยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกทั้งยามกลางวันและค่ำคืน ที่สำคัญการเดินทางไปก็ไม่ยากนัก เพราะอยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ เท่าไรด้วยนะ นอกจากนี้ ภายในเกาะเสม็ด ยังประกอบไปด้วยชายหาดและอ่าวต่าง ๆ ที่เรียงรายยาวสุดลูกลูกตา ที่นักท่องเที่ยวต่างการันตีว่า ถ้าไปถึงแล้วแทบจะไม่อยากกลับเลยทีเดียว

          เกาะเสม็ด มีหาดทรายธรรมชาติสวยงามที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง ได้แก่ หาดทรายแก้ว อ่าวน้อยหน่า อ่าวลูกโยน อ่าวไผ่ อ่าวพุทรา อ่าวทับทิม อ่าวลุงดำ อ่าวช่อ อ่าวตะวัน อ่าววงเดือน อ่าวเทียน อ่าวหวาย อ่าวกิ่ว อ่าวปะการัง อ่าวกะรัง และอ่าวพร้าว นอกจากนี้ เกาะเสม็ดยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีที่พักหลากหลายรูปแบบจำนวนมาก ที่ราคาไม่แพงนัก จึงถือเป็นเกาะเปี่ยมเสน่ห์และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบอีกแห่งหนึ่งในปัจจุบัน

          ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับท่องเที่ยวเกาะเสม็ด คือ ช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน ซึ่งเป็นช่วงคลื่นลมสงบ ส่วนช่วงเวลาระหว่างเดือนพฤษภาคม-กันยายน เป็นช่วงฤดูมรสุม ทะเลมีคลื่นลมแรง โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคม ส่วนเดือนสิงหาคมมีฝนตกชุกที่สุด นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบสภาพอากาศและคลื่นลมในทะเลก่อนเดินทาง

เกาะสีชัง

          ถึงแม้ว่าชื่อจะน่าชัง แต่ด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ทำให้ เกาะสีชัง ติดเข้าโผสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งเกาะสีชังเป็นเกาะใหญ่ที่มีฐานะเป็นอำเภอหนึ่งของชลบุรี อยู่ห่างจากฝั่งศรีราชาประมาณ 12 กิโลเมตร เป็นที่จอดพักเรือสินค้านานาชาติ และเป็นเกาะที่น่าท่องเที่ยวในบรรยากาศแบบท้องถิ่น ซึ่งสามารถแวะท่องเที่ยวในวันเดียวหรือพักค้างคืนก็ได้ ชุมชนเกาะสีชังอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะ เป็นที่ตั้งของท่าเรือเทววงศ์ (ท่าล่าง) และเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางด้วยรถสามล้อเครื่องหรือสกายแล็ปไปยังจุดอื่น ๆ

          บนเกาะสีชังจุดท่องเที่ยวบนเกาะสีชัง ได้แก่ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่, มณฑปรอยพระพุทธบาท, ช่องเขาขาด, พระจุฑาธุชราชฐาน, หาดถ้ำเขาพัง เป็นต้น ทั้งนี้ การเดินทางท่องเที่ยวบนเกาะ เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะสีชังอยู่ห่างกันพอสมควร จะสะดวกมากหากจะเช่ารถสามล้อเครื่องจากท่าเทียบเรือไปชมสถานที่ต่าง ๆ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษก็เที่ยวได้ทั่วเกาะ ค่าเช่ารถสามล้อเครื่อง คิดเป็นรอบ ๆ ละประมาณ 150-250 บาท ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและระยะทาง

ปาย

          ไม่ติดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมคงแปลกไม่น้อย สำหรับ “ปาย” อำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน แต่ชื่อเสียงกลับไม่เล็กตามไปด้วย เพราะถือว่าเป็นอำเภอที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวมากที่สุดในจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว ในอดีตเมืองปายมักรู้จักเฉพาะกันเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งต่อมา ก็เป็นที่นิยมท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทย และเมืองปายถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

          เสน่ห์ที่ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัสเมืองปาย นอกจากธรรมชาติอันร่มรื่นแล้ว การเดินชิล ๆ บนถนนคนเดินปายก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือน ถนนชัยสงครามบริเวณท่ารถปายทั้งเส้นจะปิดการจราจร ให้นักท่องเที่ยวเดินเลือกซื้อสินค้า ทั้งจากสินค้าหัตถกรรมท้องถิ่นของชาวเขา ตลอดจนสินค้าอื่น ๆ ทั่วไป โดยเฉพาะของฝาก ของที่ระลึก เสื้อผ้า รูปภาพ โปสการ์ด ตลอดจนร้านอาหาร ที่พัก แหล่งบันเทิงต่าง ๆ จะมีอยู่เรียงรายในถนนเส้นนี้ แต่กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวยอดนิยม คือการเขียนโปสการ์ดส่งไปจากปาย จึงทำให้มีร้านโปสการ์ดและร้านกาแฟ มีอยู่ทั่วไปในถนนคนเดิน

น่าน

          จังหวัดเล็ก ๆ ที่ยังคงกลิ่นอายของศิลปวัฒนธรรมล้านนาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม จึงเป็นสิ่งดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวอยากไปสัมผัสอดีตกาล ณ น่าน ดินแดนในอ้อมกอดของขุนเขาด้านตะวันออกของภาคเหนือ อุดมด้วยธรรมชาติผืนป่า สายน้ำ ทะเลหมอก หล่อหลอมรวมกับวิถีวัฒนธรรมของผู้คนชาวไทยลื้อ ทำให้เสน่ห์ของน่านไม่ได้มีเพียงธรรมชาติอันพิสุทธิ์ แต่ยังมีศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ที่แฝงด้วยแรงศรัทธาในพุทธศาสนา และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

          ปัจจุบัน เมืองน่านยังคงดำเนินวิถีชีวิตอย่างสงบสุขและเรียบง่าย ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงพึ่งพิงเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลัก ซึ่งความเรียบง่ายเหล่านี้ เป็นเสน่ห์ที่สำคัญของเมืองน่าน ที่ทำให้ใคร ๆ ก็ต่างอยากเดินทางไปท่องเที่ยวสักครั้ง และถึงแม้จะเป็นเมืองเล็ก แต่น่านก็มีเสน่ห์เรื่องอาหารการกินอยู่ไม่ใช่น้อย มีอาหารพื้นเมืองชาวเหนือให้ได้ลองชิมกัน

          ส่วนแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในจังหวัดน่านมีหลายรูปแบบ ทั้งวัดวาอาราม โบราณสถาน แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น วัดพระธาตุแช่แห้ง, วัดพระธาตุช้างค้ำ, วัดภูมินทร์, อุทยานแห่งชาติภูคา, อุทยานแห่งชาติศรีน่าน และผาชู้ เป็นต้น โดยเฉพาะการไปชมความงดงามของ “ดอกชมพูภูคา” ดอกไม้ใกล้สูญพันธุ์ชนิดหนึ่งของโลก ที่มักออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งทั้งต้น คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมของทุกปี ณ อุทยานแห่งชาติภูคา

ม่อนแจ่ม

          นาทีนี้ไม่พูดถึง ม่อนแจ่ม คงไม่ได้ เพราะกำลังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ไปซะแล้ว ด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม มองเห็นวิวทิวเขาซับซับซ้อน แถมยามค่ำคืนฟากฟ้าแวดล้อมไปด้วยดวงดารา ส่องแสงประกายระยิบระยับ จึงทำให้ม่อนแจ่มเข้าไปอยู่ในใจใครหลาย ๆ คน

          ม่อนแจ่ม คือสถานที่พักแห่งใหม่ของโครงการหลวง เป็นพื้นที่บนสันเขาในระดับความสูงประมาณ 1,350 เมตรจากระดับน้ำทะเล ในรูปแบบแคมปิ้ง รีสอร์ท ที่กลมกลืนกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังพิเศษตรงที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เพราะเพียงแค่คุณเปิดหน้าต่าง สายลมเย็น ๆ วิวขุนเขา สายหมอก ก็โผล่รอต้อนรับ แถมยามค่ำคืนดาวน้อยใหญ่จะค่อย ๆ ส่องประกายแวววับให้มองเพลิน ๆ ซะด้วย

          แถมที่ม่อนแจ่มยังมีร้านอาหารที่นำผลิตผลท้องถิ่นที่ปลูกเอง มาปรุงให้รับประทานกันด้วย ผัก ๆ สด ๆ หวานกรอบ หาชิมยากในเมืองกรุง และถ้ากินอิ่มแล้วอยากยืดแข้งขืดขา ก็สามารถไปเดินชมแปลงสตรอเบอร์รีผลสีแดงสด...ว้าว!    

ภูทับเบิก

          แปลงปลูกกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทะเลหมอกขาวโพรนไกลสุดลูกหูลูกตา คงเป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริงนักสำหรับ “ภูทับเบิก” จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ มีความสูงจากระดับทะเลประมาณ 1,768 เมตร และมีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา มีอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูง จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล ตอนเช้ามีกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์

          ปัจจุบัน ภูทับเบิกเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ซึ่งได้อพยพมาอาศัยอยู่ที่บ้านทับเบิก หมู่ 14 และหมู่ 16 โดยอยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ ในราวเดือนธันวาคม-มกราคม จะมีดอกซากุระหรือนางพญาเสือโครงสีชมพูบานสะพรั่งไปทั้งภูเขา

          นอกจากนี้ ในยามค่ำคืนยังมองเห็นแสงไฟระยิบระยับจากบ้านเรือนในอำเภอหล่มสักที่อยู่เบื้องล่าง เปรียบได้กับ “ดาวบนดิน” จากสภาพดังกล่าว ทำให้ภูทับเบิกเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และดึงดูดนักท่องเที่ยวที่นิยมสัมผัสบรรยากาศหนาวเย็น วิถีชีวิตชาวเขา และแหล่งธรรมชาติบริสุทธิ์ ภายใต้คำกล่าวที่ว่า “นอนทับเบิก สัมผัสความหนาว ดูดาวบนดิน”

ดอยอ่างขาง

          อาจเพราะอากาศบนดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่ หนาวเย็นตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม อากาศจะเย็นจนน้ำค้างกลายเป็นน้ำค้างแข็ง แถมดอกไม้นานาพันธุ์ยังสับเปลี่ยนหมุนเวียนออกดอกบานสะพรั่งไปทั่วทั้งดอย เช่น ต้นดอกนางพญาเสือโคร่ง อีกทั้งมีกิจกรรมท่องเที่ยวหลายอย่างที่สามารถทำได้ เช่น เดินเท้าศึกษาธรรมชาติ ขี่ล่อล่องไพร เป็นต้น จึงไม่แปลกที่ดอยอ่างขางจะเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี

          ส่วนสถานที่น่าสนใจบนดอยมีหลายแห่ง ได้แก่ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง มีพรรณไม้ที่ปลูกมากมาย เช่น ไม้ผลอย่างบ๊วย ท้อ พลัม พลับ กีวี กาแฟพันธุ์อาราบิกา, ไม้ดอก เช่น แกลดิโอลัส เยอบีราพันธุ์ยุโรป สแตติส, ผัก เช่น ซูกินี เบบีแครอต กระเทียมต้น หอมญี่ปุ่น ผักกาดฝรั่ง ถั่วแดงหลวง ฯลฯ นอกจากนี้ ที่สถานีฯ ยังเป็นแหล่งเที่ยวชมวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้านชาวไทยภูเขาต่าง ๆ ได้แก่ เผ่ามูเซอดำ ปะหล่อง และจีนฮ่อ รวมทั้งชมความงามตามธรรมชาติของผืนป่า กิจกรรมดูนกซึ่งมีนกทั้งนกประจำถิ่นและนกหายากต่างถิ่น

          พร้อมผลิตภัณฑ์จากงานวิจัย งานส่งเสริมเกษตรกรจำหน่ายใต้ตราสินค้า "ดอยคำ" และที่พักทั้งในรูปแบบรีสอร์ท บ้านพักแบบกระท่อมและลานกางเต็นท์พร้อมอาหารและเครื่องดื่มบริการ, สวนบอนไซ อยู่ในบริเวณสถานีฯ เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้เขตอบอุ่นและเขตหนาวทั้งในและต่างประเทศ และจุดชมวิวกิ่วลม ที่สามารถชมทะเลหมอกและวิวพระอาทิตย์ทั้งขึ้นและตก มองเห็นทิวเขารอบด้านและหากฟ้าเปิดจะมองเห็นสถานีเกษตรหลวงอ่างขางด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น