วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555

การบ้าน ปฏิบัติการที่ 6 SQL

การบ้าน ปฏิบัติการที่ 6 SQL


       h .   จากข้อ e เมื่อแปลออกมาเป็นภาษามนุษย์จะได้ว่า “ให้เลือกฟิลด์รหัสนิสิต  ชื่อนิสิต  อาจารย์ที่ปรึกษา และชั้น จากตารางนักเรียน (student) โดยมีเงื่อนไขคือเป็นเป็นนิสิตชั้นปีที่ 2  ให้ลองแปลข้อ f ออกมาเป็นภาษาคำถามของมนุษย์
       จากข้อ f  จะได้ว่า   SELECT   Studentid,Name,Advisor,class,hobby 
                                      FROM  student
                              WHERE hobby LIKE 'อ่านหนังสือ' ;



แปลออกมาเป็นภาษามนุษย์จะได้ว่า ให้เลือกฟิลด์รหัสนิสิต  ชื่อนิสิต  อาจารย์ที่ปรึกษา ชั้นและงานอดิเรก จากตารางนักเรียน (studentโดยมีเงื่อนไขคือต้องแสดงเฉพาะงานอดิเรกที่เป็นอ่านหนังสือ



 i .ให้นิสิตสืบค้นข้อมูลด้วยภาษา SQL ตามคำถาม “ให้เลือกฟิลด์ทั้งหมดจากตารางรายวิชา (subject) ”
SELECT *
FROM subject;





 j.       ให้นิสิตสืบค้นข้อมูลด้วยภาษา SQL  ตามที่ถาม“ให้เลือกฟิลด์รหัสรายวิชา  ชื่อรายวิชา  และจำนวนหน่วยกิต จากตารางรายวิชา (subject) 
SELECT subjectid,name,credit
FROM subject;







k       k.       ให้นิสิตสืบค้นข้อมูลด้วยภาษา SQL ตามคำถาม “ให้เลือกฟิลด์รหัสรายวิชา  ชื่อรายวิชา  และจำนวนหน่วยกิต จากตารางรายวิชา (subject) โดยมีเงื่อนไข คือต้องแสดงเฉพาะรายวิชา  104111”
SELECT subjectid,name,credit
FROM subject
WHERE   subjectid = 104111;




      O . จากข้อ m เมื่อแปลออกมาเป็นภาษาคำถามมนุษย์จะได้ว่า “ให้เลือกฟิลด์รหัสนิสิต  ชื่อนิสิต  คะแนน เกรด  และชื่อรายวิชา จากตารางนักเรียน (student) การลงทะเบียน  (Register)  และรายวิชา(Subject) โดยมีเงื่อนไขคือแสดงเฉพาะนิสิตรหัส  49000002 เท่านั้น”  ให้ลองแปลข้อ n ออกมาเป็นภาษาคำถามมนุษย์
จากข้อ n  จะได้ว่า 
      SELECT Student.Studentid,Student.Name, Register.Score,Register.Grade ,Subject.Name
FROM Register, Student,Subject
WHERE (Register.Studentid = Student.Studentid) And (Register.Subjectid = Subject.Subjectid AND Register.Subjectid = 104111);









แปลออกมาเป็นภาษามนุษย์จะได้ว่า ให้เลือกฟิลด์รหัสนิสิต  ชื่อนิสิต  คะแนน  เกรด  และชื่อรายวิชา จากตารางนักเรียน (student) การลงทะเบียน  (Register)  และรายวิชา(Subject) โดยมีเงื่อนไขคือแสดงเฉพาะรายวิชารหัส 104111  เท่านั้น

     
     p.   ให้นิสิตสืบค้นข้อมูลด้วยภาษา SQL ตามคำถาม “ให้เลือกฟิลด์รหัสนิสิต  ชื่อนิสิต  คะแนน  เกรด  และชื่อรายวิชา จากตารางนักเรียน (student) การลงทะเบียน  (Register)  และรายวิชา(Subject) โดยมีเงื่อนไขคือแสดงเฉพาะรายวิชารหัส 104111  เท่านั้น  และนิสิตอยู่ในชมรมภูมิศาสตร์เท่านั้น
SELECT Student.Studentid,Student.Name, Register.Score,Register.Grade ,Subject.Name
FROM Register, Student,Subject
WHERE (Register.Studentid = Student.Studentid) AND (Register.Subjectid = Subject.Subjectid AND Register.Subjectid = 104111) AND Student.club = 'ภูมิศาสตร์'









วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555

แผ่นดินไหว 7.4 ริกเตอร์ นอกชายฝั่ง"เอล ซาลวาดอร์"ยังไม่ประกาศเตือนสึนามิ

เกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 7.4 ริกเตอร์ ในมหาสมุทรแปซิฟิก นอกชายฝั่งประเทศเอล ซาลวาดอร์ โดยวัดขนาดความรุนแรงได้ 7.4 ริกเตอร์



ภาพ:USGS


สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) ระบุว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.37 น. ตามเวลาท้องถิ่นวานนี้ (26 ส.ค.) (11.37 น. ตามเวลาในไทย) ที่ลองติจูด 12.279° ตะวันออก และ 88.530° ตะวันตก โดยเกิดขึ้นในระดับความลึก 52.9 กม. ห่างจากกรุงซาน ซาลวอดอร์ ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 169 กม.

อย่างไรก็ดี ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิค กล่าวว่า ยังคงไม่มีการประกาศเตือนภัยสึนามิแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ดี แม้ยังคงไม่แน่ชัดว่า เกิดสึนามิขึ้นหรือไม่ แต่ได้ออกคำเตือนให้ไปยังคอสตาริกา, นิคารากัว, เอล ซาลวาดอร์, ฮอนดูรัส, กัวเตมาลา, ปานามา และเม็กซิโกให้จับตาอย่างใกล้ชิดแล้ว

นอกจากนั้น ยังเกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กจนถึงปานกลางขึ้นหลายระลอกทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ


แผ่นดินไหวเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียตั้งแต่อิมพีเรียลเคาน์ตี้ไปจนถึงชายฝั่งเมืองซานดิเอโก และขึ้นไปทางเหนือถึงหุบเขาโคเชลลา โดยครั้งที่รุนแรงที่สุดเกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.31 น. ของบ่ายวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.5 ริกเตอร์ และอีกไม่กี่นาทีต่อมาก็เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.9 ริกเตอร์ตามมาอีก

แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นทำให้ขวดไวน์ในร้านอาหารเมืองดรอว์ลีย์หล่นแตกกระจัดกระจาย ขณะที่ตำรวจรายงานว่ามีอาคารหลายแห่งในเขตตัวเมืองได้รับความเสียเล็กน้อย แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555

พายุโซนร้อน “ไอแซก” ถล่มเฮติ




วันนี้ ( 25 ส.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ ประเทศเฮติว่า ชาวเฮติต้องเผชิญอิทธิพลของพายุโซนร้อน “ไอแซก” ที่ขึ้นฝั่งเมื่อวันศุกร์ ก่อให้เกิดฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง และน้ำท่วมฉับพลัน ส่อแววเป็นหายนะภัยธรรมชาติครั้งใหม่ แม้ประเทศจะยังคงอยู่ในสภาวะฟื้นตัวจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อ 2 ปีก่อน ที่คร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 250,000 ศพ
              ประธานาธิบดีมิเชล มาร์เตลลี แห่งเฮติ ยกเลิกกำหนดการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น เพื่อคอยติดตามสถานการณ์ พร้อมทั้งกำกับดูแลทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีโลรองต์ ลาโมธ ที่แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ว่า เบื้องต้นได้สั่งปิดโรงเรียนทุกแห่ง และเพิ่มเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทุกแห่งแล้ว พร้อมทั้งยืนยันว่า รัฐบาล และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง

              รายงานล่าสุดของศูนย์เตือนภัยพายุหมุนแห่งชาติ ในเมืองไมแอมี รัฐฟลอริดา ของสหรัฐ ระบุว่า พายุโซนร้อน ไอแซก กำลังทวีความรุนแรงเป็นพายุเฮอริเคน โดยมีความเร็วลมอยู่ที่ 95 ก.ม./ชม. เคลื่อนที่ด้วยความเร็วลม 265 ก.ม./ชม. มีทิศทางมุ่งหน้ามายังเฮติ ก่อนเคลื่อนตัวต่อไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองซานโต โดมิงโก ของสาธารณรัฐโดมินิกัน ด้วยความเร็วลม 22 ก.ม./ชม. อิทธิพลของพายุอาจทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่ม บนพื้นที่เกาะฮิสปานิโอลา และอ่าวกวนตานาโม ซึ่งเจ้าหน้าที่ประเมินว่า ปริมาณน้ำฝนอาจสูงถึง 51 เซนติเมตร

               ด้านทางการคิวบาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 6 เมืองทางตะวันออกของประเทศ ที่มีประชากรอาศัยอยู่เกือบ 5 ล้านคน ทั้งนี้ พายุโซนร้อนลูกนี้ มีแนวโน้มขึ้นฝั่งรัฐฟลอริดา ของสหรัฐ ประมาณต้นสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นช่วงที่พรรครีพับลิกันจัดการประชุมใหญ่พอดี

วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555

แฉ'โสมแดง'สร้างโดมครอบเตาปฏิกรณ์

เผยเกาหลีเหนือสร้างโดมครอบเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่กำลังก่อสร้างเสร็จแล้ว นับเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญของโรงไฟฟ้า ซึ่งอาจใช้พัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์ได้แฉ'โสมแดง'สร้างโดมครอบเตาปฏิกรณ์
 


เจนส์ ดิเฟนซ์ วีกลี่ นิตยสารชั้นนำด้านกลาโหม ได้ตรวจสอบภาพถ่ายที่บันทึกโดยดาวเทียม จีโออาย-1 เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา พบว่า เตาปฏิกรณ์ชนิดน้ำมวลเบาที่โรงไฟฟ้ายองเบียน ปรากฏมีโดมคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 21 เมตร ครอบอาคารของเตาในระดับผิวดิน

อัลลิสัน พุสซิโอนี นักวิเคราะห์ภาพถ่าย กล่าวว่า โดมดังกล่าวนับเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญในการสร้างเตาปฏิกรณ์ของเกาหลีเหนือ แม้ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะสร้างเตาปฏิกรณ์เสร็จสมบูรณ์ และเปิดเดินเครื่องได้อย่างเต็มที่

เขาบอกว่า โดมได้ถูกสร้างครอบบนอาคารบรรจุเตาปฏิกรณ์ในช่วงระหว่างวันที่ 21 มิถุนายน-6 สิงหาคม

ประเทศคอมมิวนิสต์แห่งนี้ได้ปิดเตาปฏิกรณ์ที่ใช้แร่พลูโตเนียมที่เมืองยองเบียน ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโซลไปทางเหนือ 90 กิโลเมตร เมื่อปี 2550 ตามข้อตกลงปลดอาวุธนิวเคลียร์กับนานาชาติ แต่ต่อมาเกาหลีเหนือได้กลับลำ

เมื่อปี 2553 เกาหลีเหนือได้เปิดเผยแก่คณะนักวิทยาศาสตร์สหรัฐ ว่า กำลังสร้างเตาปฏิกรณ์แบบน้ำมวลเบาแห่งใหม่ที่เมืองยองเบียน เพื่อใช้งานในกิจการพลเรือน ทั้งนี้ เกาหลีเหนือต้องการพลังงานเป็นอย่างมาก แต่เตาปฏิกรณ์ดังกล่าวสามารถผลิตพลูโตเนียมคุณภาพสูงสำหรับทำระเบิดได้

โครงการอาวุธปรมาณูของเกาหลีเหนือใช้พลูโตเนียมเป็นวัสดุนิวเคลียร์ ซึ่งได้ทดสอบระเบิดนิวเคลียร์มาแล้ว 2 ครั้งนับแต่ปี 2549  รัฐบาลเปียงยางบอกด้วยว่า กำลังก่อสร้างโรงเสริมคุณภาพแร่ยูเรเนียมเพื่อผลิตเชื้อเพลิงสำหรับเตาปฏิกรณ์แห่งใหม่

นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า เตาแห่งใหม่นี้อาจถูกปรับเปลี่ยนไปใช้ในการผลิตยูเรเนียมคุณภาพสูงได้ ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เกาหลีเหนือจะสร้างอาวุธนิวเคลียร์

วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ไต้ฝุ่นลูกใหม่จ่อคิวเข้าไต้หวัน

 

วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555

อธิกวินาที(leap second) คืออะไร?

อธิกวินาที(leap second) คืออะไร?
คำว่าอธิก แปลว่า การเพิ่ม เช่นคำว่า ปีอธิกสุรทิน คือ ปีที่มีการเพิ่มวันที่ 29 เข้าไปในเดือนกุมภาพันธ์ อันเนื่องมาจากปีหนึ่งๆ มีเวลาเท่ากับ 365 วันกับอีก 1/4 วัน ดังนั้น 4 ปีจึงรวมเป็น 1 วันคือเพิ่มไปในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ อธิกมาส แปลว่า ปีที่มีการเพิ่มเดือนทางจันทรคติ คือปีที่มีเดือน 8 สองครั้ง เป็นต้น ดังนั้น อธิกวินาที ก็คือการเพิ่มวินาทีนั่นเอง
        ทำไมต้องมีการเพิ่มวินาที? เวลานั้นคือที่สิ่งที่มนุษย์เรากำหนดขึ้นโดยสังเกตจากธรรมชาติ ดังนั้นจึงต้องมีการปรับเวลาให้เข้ากับธรรมชาติ แต่เดิมมนุษย์เราก็อาศัยดวงอาทิตย์เป็นสิ่งที่บอกเวลาในเวลากลางวัน ส่วนกลางคืนก็อาศัยการดูดาวฤกษ์เป็นเครื่องบอกเวลา ต่อมามนุษย์เราก็มีเครื่องมือบอกเวลาก็คือนาฬิกา ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาในยุคแรกๆ ที่เป็นนาฬิกาลูกตุ้ม นาฬิกาควอทซ์ จนกระทั่งพัฒนามาถึงนาฬิกาอะตอมซึ่งอาศัยการสั่นของอะตอมของธาตุกัมมันตรังสีที่มีความเที่ยงตรงสูงมาก มากเสียยิ่งกว่าเวลาที่โลกหมุนจริง ซึ่งไม่เที่ยงตรงเท่า แต่เราก็ต้องยึดเวลาตามธรรมชาติเป็นหลัก จึงจำเป็นต้องปรับเวลาที่เที่ยงตรงมากนี้ ให้ไม่เที่ยงตรงตามธรรมชาติ คือตามการหมุนของโลก โดยการเพิ่มวินาทีในบางปี

         การเพิ่มวินาทีนี้จะทำในวันที่ 30 มิถุนายน ในเวลาสิ้นสุดของวันคือในช่วงกลางปี และวันที่ 31 ธันวาคมคือในปลายปี ในเวลาสิ้นสุดของวันเช่นกัน โดยเอาเวลามาตรฐานสากลที่กรีนิช เป็นเกณฑ์ในการตั้ง ดังนั้นใน 1 วันที่มีอยู่ทั้งหมด 86,400 วินาที วันที่มีอธิกวินาทีก็จะมี 86,401 วินาที

         แต่อธิกวินามีจะไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวเหมือนปีอธิกสุรทินที่มี 4 ปีครั้งหนึ่ง สาเหตุก็เพราะว่าโลกนั้นหมุนเร็วช้าไม่สม่ำเสมอ ในแต่ละปี เร็วบ้างช้าบ้าง แต่ในภาพรวมแล้วโลกจะหมุนช้าลง จึ่งทำให้นาฬิกาอะตอมที่เที่ยงตรงมากไม่ตรงกับเวลาธรรมชาติ จึงต้องเพิ่มหรือลดวินาที แต่ที่ผ่านมานั้นเพิ่มทั้งสิ้น

         ในทางดาราศาสตร์จะใช้การสังเกตดวงอาทิตย์ที่ผ่านตำแหน่งหนึ่งๆ ครบหนึ่งรอบหรือในเวลากลางคืนใช้วิธีสังเกตจากดวงดาวเรียกว่าเวลาสุริยะ (Universal time 1: UT1) โดยมีองค์กรหนึ่งซึ่งทำหน้าที่เทียบเวลาการหมุนของโลกเทียบกับตำแหน่งของดวงดาวบนท้องฟ้า โดยเปรียบเทียบกับเวลา UTC (เวลาที่ได้จากการเฉลี่ยเวลาจากนาฬิกาอะตอมที่ตั้งอยู่ตามประเทศต่างๆ ทั่วโลก)คือเวลาที่ใช้อ้างอิงการหมุนของโลก เมื่อพบว่าเวลาทั้งสองต่างกันมาก ก็จะมีการเพิ่มหรือลดวินาทีดังกล่าวข้างต้น

          โดยเมื่อเทียบเวลา UT 1 กับเวลา UTC แล้วแตกต่างกันเกิน 0.9 วินาที ก็จะมีการเพิ่มหรือลดวินาทีขึ้น โดยจะมีการประกาศเป็นครั้งๆ ไป โดยการเพิ่มวินาทีนั้นเช่น โดยปกติเมื่อถึงเวลา 23.59 :59 แล้วก็จะเป็น 00.00:00 แต่ถ้าเป็นอธิกวินาทีจะได้ว่า 23.59 :59 จากนั้นจะเป็น 23.59:60 แล้วจึงขึ้นวันใหม่เป็น 00.00:00 ตามลำดับ ซึ่งในวันนี้ 30 มิถุนายน 2555 (ตามเวลากรีนิช ก็จะมีการเพิ่มวินาทีเช่นกัน เทียบกับเวลาในไทยคือ UTC+7 ก็จะเป็นเวลา 06.59:59 ต่อด้วย 06.59:60 และตามด้วย 07.00:00 ตามลำดับในเช้าวันนี้นั้นเอง

วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ญี่ปุ่นเตรียมฟ้องเกาหลีใต้ต่อศาลโลกกรณีพิพาทเกาะ



ญี่ปุ่น ประกาศจะปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวจีนและฮ่องกง 14 คน กลับประเทศ หลังจับกุมทั้งหมด ไว้ฐานรุกล้ำเกาะพิพาทเซนกากุ ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นจะส่งเรื่องข้อพิพาทเรื่องเกาะทาเคชิมะเข้าสู่ศาลโลก
โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น แถลงว่า รัฐบาลจะเนรเทศนักเคลื่อนไหวทั้ง 14 คนออกนอกประเทศ โดยไม่ดำเนินคดีข้อหาใดๆกับพวกเขา และสื่อท้องถิ่นคาดว่า พวกเขาจะเดินทางกลับประเทศได้ภายในวันนี้ คนเหล่านี้ถูกจับกุมหลังล่องเรือไปยังเกาะเซนกากุ หรือที่จีนเรียกว่า เกาะเตียวหยู ในทะเลจีนตะวันออกเมื่อวันพุธ เพื่อยืนยันว่า จีนเป็นเจ้าของเกาะแห่งนี้ แม้ว่าญี่ปุ่นอ้างกรรมสิทธิครอบครองเกาะนี้ด้วยเช่นกัน
นายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะ เสียใจมากกับเหตุการณ์รุกล้ำน่านน้ำที่เกิดขึ้น และตัดสินใจให้เนรเทศทั้ง 14 คน  ออกนอกญี่ปุ่น ตามข้อสรุปของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโฆษกรัฐบาลชี้แจงว่า การตัดสินใจครั้งนี้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ทางการเมืองใดๆ
แต่สื่อรายงานว่า การที่ญี่ปุ่นเร่งปล่อยคนเหล่านี้ออกไปโดยเร็ว ก็เพื่อป้องกันให้เกิดกระแสประท้วง ลุกลามเป็นวงกว้าง หลังจากมีการชุมนุมต่อต้านญี่ปุ่นทั้งในฮ่องกงและจีน
วันเดียวกัน โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น แถลงว่า รัฐบาลขอเชิญเกาหลีใต้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อให้ตัดสินว่าชาติใดเป็นเจ้าของเกาะทาเคชิมะ หรือที่เกาหลีใต้ เรียกว่า เกาะด็อกโด ในทะเลญี่ปุ่น หลังจากไม่พอใจที่ประธานาธิบดีลี มยอง-บักของเกาหลีใต้เยือนเกาะพิพาทเมื่อวันศุกร์ แต่โฆษกกระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ แถลงตอบโตันทันควันว่า รัฐบาลไม่สนใจการเคลื่อนไหวดังกล่าวของญี่ปุ่น และรัฐบาลพร้อมตอบโต้การยั่วยุใดๆจากญี่ปุ่น
นอกจากนี้  มีรายงานว่า นายจุน  อาซุมิ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น บอกว่า อาจจะเลื่อนกำหนดการเดินทางไปเยือนเกาหลีใต้ในเดือนนี้ หลังความขัดแย้งเรื่องเกาะพิพาทระหว่างสองประเทศกำลังร้อนระอุ และข้อตกลงสวอปเงินระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่จะหมดอายุในเดือนตุลาคมนี้ อาจจะไม่มีการต่ออายุอีก

วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สลด! เหมืองดีอาร์คองโกถล่ม คนงานดับ 60 ศพ




เกิดเหตุเหมืองแร่ทองในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ ดีอาร์คองโก พังถล่มทับคนงาน 60 คนทั้งเป็นจนเสียชีวิต...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 17 ส.ค. ว่า เกิดเหตุเหมืองแร่ทองในมณฑลโอเรนเทล ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก หรือ ดีอาร์คองโก พังถล่มลงมา ทำให้คนงานเหมือง ซึ่งกำลังทำงานอยู่ลึกลงไปราว 100 ม. ถูกฝังทั้งเป็นและเสียชีวิตทั้งหมด เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าช่วยเหลือได้ทัน

เหตุสลดเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยหน่วยงานท้องถิ่นระบุว่า หลังเกิดเหตุ หน่วยงานได้ส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปช่วยเหลือ แต่ก็เป็นไปอย่างล่าช้าและยากลำบาก เนื่องจากการเข้าถึงเหมืองดังกล่าว ต้องผ่านพื้นที่ป่าทึบ ซึ่งมีกลุ่มกองกำลังติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลเคลื่อนไหวอยู่

ทั้งนี้ อุบัติเหตุทำนองเดียวกันในดีอาร์คองโก เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากความไม่มีระเบียบในการทำเหมืองแร่ และถึงแม้ประเทศจะได้กำไรมหาศาล จากการขายทรัพยากรแร่ธาตุในดิน แต่ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศก็ยังคงอยู่ในภาวะยากจน

เผย 10 ชาติ เอเชีย เสี่ยงภัยพิบัติมากสุด ไทย ไม่อยู่ในโผ






เผยรายงาน 10 ชาติ "เอเชีย" เสี่ยงภัยภัยพิบัติทางธรรมชาติมากที่สุดในปี 2012 "ไทย" ไม่อยู่ในโผ...

สำนักข่าวบีบีซี รายงานเมื่อวันที่ 15 ส.ค. อ้างการเผยแพร่ของ "เมเปิลครอฟต์" บริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงสัญชาติอังกฤษ ว่าด้วยรายงานเรื่อง "แผนที่ความเสี่ยงภัยธรรมชาติ" เตือนว่า "เอเชีย" เป็นภูมิภาคที่มีความเสี่ยงมากที่สุด ในการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติรุนแรงต่างๆ อาทิ  น้ำท่วม แห้งแล้ง แผ่นดินไหว และพายุ เป็นต้น

ทั้งนี้ 10 ประเทศที่เสี่ยงประสบภัยธรรมชาติในเอเชียมากที่สุดในปี 2012 ได้แก่ บังกลาเทศ ฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐโดมินิกัน พม่า อินเดีย เวียดนาม ฮอนดูรัส ลาว เฮติ และนิการากัว

อนึ่ง ตลอดระยะเวลา 12 เดือนของปีที่แล้ว ข้อมูลความเสียหายจากภัยธรรมชาติในเอเชีย ระบุสูญเสียมากถึง 380 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 114,000,000 ล้านบาท) ซึ่งก้อนใหญ่สุด เกิดจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิญี่ปุ่น เมื่อ 11 มี.ค. ก่อให้เกิดความเสียหายมากถึง 210 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  (ราว 6,300,000 ล้านบาท).

วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555

พายุโซนร้อน"ไคตั๊ก"ถล่มซ้ำฟิลิปปินส์

พายุโซนร้อน"ไคตั๊ก"ถล่มซ้ำฟิลิปปินส์

.



สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์รายงานว่า  พายุโซนร้อนไคตั๊ก พัดกระหน่ำฟิลิปปินส์แล้วเมื่อเช้าวันพุธ ทำให้เกิดฝนตกหนัก เป็นสาเหตุให้น้ำท่วมและดินถล่มอีกรอบ ซ้ำรอยพายุก่อนหน้านี้ที่ถล่มฟิลิปปินส์อย่างหนักมาแล้ว  โดยพายุโซนร้อนไคตั๊ก เคลื่อนตัวเข้ากระหน่ำทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะลูซอนก่อนรุ่งเช้า  ด้วยลมกระโชกแรงและปริมาณฝนที่วัดได้ 1.3 นิ้วต่อชั่วโมง   ขณะที่ กรุงมะนิลาและปริมณฑลไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง
ด้าน นายเมลชิโต  คาสโตร  หัวหน้าฝ่ายป้องกันภัยพลเรือนในภูมิภาคอิโลคอส ทางเหนือของประเทศกล่าวว่า  ฝนตกหนักทำให้น้ำท่วม 4 เมือง  แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตรอบใหม่  กระนั้นเกิดดินถล่มบนถนนหลวงบางช่วง ทำให้การจราจรถูกตัดขาด   ส่วนนายนอร์มา ทาโลซิก   เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยพลเรือนทางฝั่งตะวันออกของเกาะลูซอนบอกว่า ทางการกำลังเฝ้าติดตามแม่น้ำคากายันอย่างใกล้ชิด  เนื่องจากหวั่นเกรงว่า ระดับน้ำอาจล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมเขตชุมชน
สำหรับพายุไคตั๊ก ถูกคาดว่า จะซ้ำเติมความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเกือบ 5 แสนคนที่ยังคงอยู่ในศูนย์อพยพหลายแห่งในพื้นที่ต่างๆ นอกกรุงมะนิลา นับตั้งแต่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว    ขณะเดียวกัน  นายเบนิโต รามอส   หัวหน้าสภาการจัดการและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งชาติกล่าวเตือนประชาชนในกรุงมะนิลาและปริมณฑลให้เตรียมพร้อมรับมือพายุไคตั๊ก ที่อาจจำเป็นต้องอพยพกันอีก

วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กรุงเทพฯติดโผเมืองใหญ่เสี่ยงถูกภัยธรรมชาติทำลายย่อยยับ อันดับ 10 ของโลก / อันดับ 1 อาเซียน

       เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ผลการศึกษาขององค์การว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ “โออีซีดี” ระบุ กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของไทยติด “อันดับ 10 ของโลก” และ “อันดับ 1 ในอาเซียน”ในฐานะเมืองใหญ่ที่มีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก และถือเป็นเมืองสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่งยวดต่อภัยคุกคามจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น และการทำลายล้างของคลื่น “สตอร์ม เซิร์จ” โดยคาดว่า มูลค่าทรัพย์สินในกรุงเทพฯที่สุ่มเสี่ยงต่อหายนะดังกล่าว อาจพุ่งสูงถึง 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 34.9 ล้านล้านบาท) ในปี ค.ศ.2070 หรืออีก 58 ปี นับจากนี้
      
        รายงานขององค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศดังกล่าวซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1961 และมีฐานอยู่ที่กรุงปารีสของฝรั่งเศสระบุว่ามีเมืองท่ามากกว่า 130 แห่งทั่วโลกที่กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆต่อภัยคุกคามจากเหตุน้ำท่วมเพราะคลื่น “สตอร์ม เซิร์จ” , ภัยคุกคามจากพายุ รวมถึง การที่ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น และมีอุณหภูมิอุ่นขึ้นกว่าปกติ ซึ่งทางโออีซีดีระบุว่า กรุงเทพมหานครเป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ ที่ขาดการวางแผนด้านการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพ และยังมีการบริหารจัดการในเชิงโครงสร้างที่ “ย่ำแย่” ซึ่งแน่นอนว่า จะยิ่งส่งผลให้มีคนกรุงเทพฯต้องตกอยู่ในความเสี่ยงจากภัยคุกคามดังกล่าวมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับในอีกหลายเมืองใหญ่ทั่วโลก
      
        ผลการศึกษาขององค์การระหว่างประเทศซึ่งมีสมาชิก 34 ชาติดังกล่าวระบุว่า เมืองหลวงของไทยซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ไม่ต่ำกว่า 12 ล้านคนซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกขนานนามว่า “เวนิสตะวันออก” แห่งนี้ อาจตกอยู่ในอันตรายจากภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกมากขึ้น ซึ่งภายในปี ค.ศ. 2070 ประชากรของกรุงเทพฯ ไม่ต่ำกว่า 5.1 ล้านคนจะตกอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดจาก “สารพัดภัยธรรมชาติ” ไม่ว่าจะเป็นปรากฏการณ์คลื่นซัดกระหน่ำชายฝั่ง น้ำท่วม หรือ พายุ
      
        ขณะที่มูลค่าทรัพย์สินในเมืองหลวงของไทยที่สุ่มเสี่ยงถูกทำลาย ก็คิดเป็นวงเงินมหาศาลถึง 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 34.9 ล้านล้านบาท และทำให้กรุงเทพฯกลายเป็นมหานครที่เสี่ยงต่อภัยคุกคามจากสภาพอากาศโลกมากที่สุดเป็นอันดับที่ 10 ของโลก แต่เป็นเมืองที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
      
        ด้านโฮเซ อังเฆล กูร์เรีย อดีตนักการทูตชาวเม็กซิกัน วัย 62 ปี ในฐานะเลขาธิการใหญ่ของโออีซีดี ออกมาเปิดเผยว่า เหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ในประเทศไทยที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้วและสร้างความเสียหายเป็นวงเงินมากกว่า 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.43ล้านล้านบาท) นั้น ถือเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่บ่งชี้ว่า นับจากนี้เมืองหลวงของไทยจะต้องเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น
      
        ทั้งนี้ รายงานของโออีซีดีระบุว่า 10 เมืองใหญ่ของโลกที่สุ่มเสี่ยงจะถูกทำลาย หรือเสี่ยงได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลกมากที่สุด คือ เมืองไมอามี มลรัฐฟลอริดา ของสหรัฐฯ, นครกว่างโจว ของจีน, มหานครนิวยอร์กและเมืองนวร์ก ของสหรัฐฯ, เมืองโกลกาตาหรือกัลกัตตาของอินเดีย,นครเซี่ยงไฮ้ของจีน , เมือง มุมไบของอินเดีย, เมืองเทียนจินหรือเทียนสินของจีน, กรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น, เขตปกครองพิเศษฮ่องกงของจีน และปิดท้ายด้วยกรุงเทพมหานครของไทย ในอันดับที่ 10
      

วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2555

10 อันดับ สถานที่ท่องเที่ยวหน้าฝน

10 อันดับ สถานที่ท่องเที่ยวหน้าฝน

ย่างเข้าเดือนหก ฝนก็ตกมันซะเดือนห้า ฉ่ำๆ แฉะๆ นี่แหละเอกลักษณ์แห่งฤดูกาลน้ำ ถึงเวลาหาที่ดื่มดำ่ธรรมชาติ  10 อันดับ สถานที่ท่องเที่ยวหน้าฝน สักครั้งสักหนต้องจัดไป

น้ำตกกรุงชิง

photo : www.panoramio.com
น้ำตกกรุงชิง เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาหลวง จ. นครศรีธรรมราช สภาพภูมิศาสตร์เป็นป่าดิบชื้นหนาแน่นตั้งแต่ที่ราบต่ำจนถึงเชิงเขา มีความสูงถึง 7 ชั้น มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ น้ำตกกรุงชิง จึงเป็น สถานที่ท่องเที่ยวหน้าฝน ที่ได้รับความนิยม และถูกขนานนามว่า “สวรรค์ของนกแดนใต้” เพราะเป็นแหล่งดูนกที่น่าสนใจที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้

อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เพชรบูรณ์

photo : http://web3.dnp.go.th
เที่ยว เพชรบูรณ์ หน้าหนาวก็ดี หน้าฝนก็เหมาะ โดยเฉพาะ อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ตื่นตากับป่าสนซึ่งอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี ด้วยความสูงลิบลิ่ว 30-40 เมตร นานาสนเรียงรายตัดกับความเขียวขจีของพื้นหญ้า บวกกับอากาศเย็นฉ่ำ ทำให้ อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เย้ายวนใจนักท่องเที่ยว เป็นหนึ่งใน สถานที่ท่องเที่ยวหน้าฝน ที่ต้องหาโอกาสไปสัมผัส

อุทยานแห่งชาติเชียงดาว และ ดอยผาแดง

photo : http://cmhike.com
อุทยานแห่งชาติเชียงดาว และ ดอยผาแดง ต้นน้ำของลำน้ำปิงและแม่แตง หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ทิวทัศน์สวยงาม ยิ่งสูงยิ่งสวย ยอดดอยเชียงดาวจึงเป็นเป้าหมายที่ท้าทายสำหรับนักท่องเที่ยว

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

photo : www.greentrail-indochina.com
สถานที่ท่องเที่ยวหน้าฝน อีกหนึ่งคงหนีไม่พ้น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งครอบคลุม 4 จังหวัด คือ จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดนครนายก อุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน อากาศดีท่ามกลางทุ่งหญ้าเขียวขจี ยิ่งช่วงฤดูฝน ยิ่งชุ่มฉ่ำ ชวนให้อยากเข้าป่า ฟังเสียรธารน้ำตกไหล คืนชีวิตชีวา ชาร์ตพลังได้เป็นอย่างดี

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า

photo : www.thaiguidetothailand.com
อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า พื้นที่ครอบคลุมรอยต่อระหว่าง 3 จังหวัด คือ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก และ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ สถานที่ท่องเที่ยวหน้าฝน ที่ได้รับความนิยมคือ ลานหินปุ่ม ผาชูธง หรือ ลานหินแตก นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความละลานตาของมอสสีเขียวสดตัดกับแนวพื้นหิน รวมถึงผจญภัยในป่าเต็งรัง ป่าดิบเขา และป่าสนเขา รับรองว่าถูกธรรมชาติมอมเมาจนลืมแสงสีแน่นอน

ล่องแก่งลำน้ำเข็ก

photo : flickrhivemind.net
เที่ยวหน้าฝนแบบเร้าใจกับโปรแกรม ล่องแก่งลำน้ำเข็ก กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่จังหวัดพิษณุโลก ทั้งมันส์ ทั้งท้าทาย เพราะการล่องแก่งที่ลำน้ำเข็กนั้นต้องใช้ความชำนาญขั้น expert เนื่องจากมีความยากสูงถึงระดับ 5 และยากติดอันดับต้นๆ ของการล่องแก่งในประเทศไทย (ล่องแก่งอย่างไรให้เซียน ดูเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการล่องแก่ง)

แก่งหินเพิง

photo : www.unseenthailand.org
ท่องเที่ยวเชิงผจญภัย  สนุกสนาน ตื่นเต้นกับลำน้ำอันเชี่ยวกราก ที่ แก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี โดยฤดูกาลล่องแก่งของที่นี่จะเริ่มขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปี หรือช่วงหน้าน้ำ ระยะทางของเส้นทางการล่องแก่งหินเพิง ยาวประมาณ 2.5 กิโลเมตร ระดับความยากอยู่ที่ระดับ 5 ท้าผู้กล้าให้ลอง!

วังตะไคร้

photo : www.thailandtriptour.com
วังตะไคร้ จังหวัดนครนายก สถานที่ท่องเที่ยวที่คุ้นหูกันตั้งแต่เด็ก นอกจาก น้ำตกจำลอง สวนไม้ดอกคุณท่าน และสระปทุมแล้ว ช่วงฤดูฝนหลาก กิจกรรมยอดฮิต คือ การล่องแก่งห่วงยาง หรือ แก่งแพยาง เป็นการท้าทายเหนือสายน้ำ พร้อมสัมผัสทิวทัศน์แห่งธรรมชาติของผืนป่าและขุนเขา

เมืองอุ้มผาง

photo : www.tedoo.ro
จังหวัดตาก หนึ่งใน สถานที่ท่องเที่ยวหน้าฝน แหล่งที่น่าสนคือ เมืองอุ้มผาง โอบล้อมด้วยขุนเขา ผืนป่าอันบริสุทธิ์ ขี่ช้าง เดินป่า ท่องน้ำตก ตระการตากับทัศนียภาพและอากาศบริสุทธิ์

น้ำตกทีลอซู

photo : www.mosttravelinthailand.com
น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก ปลายทางในฝันของหมู่นักท่องเที่ยว สัมผัสธรรมชาติอันสวยสด พร้อมล่องแพ ท่องลำเนาไพร สุดจะคุ้มค่าหากดั้นด้นไปถึง ต้องตกตะลึงกับความสูง 300 เมตร งดงาม อลังการ ทีลอซู ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดน้ำตกแห่งเมืองไทย

สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ปี 2554

สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ปี 2554

 เกาะช้าง

          เกาะช้าง...เกาะยอดฮิตตลอดกาล อาจเพราะมีธรรมชาติอันงดงามทั้งบนบกและในทะเล มีหาดทรายขาวละเอียดที่สะอาดบริสุทธิ์ อีกทั้งยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ที่สำคัญคือสามารถไปท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ ความงดงามของ เกาะช้าง หรือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง จังหวัดตราด เกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ ก็ยังคงสวยงามเสมอ

          ทั้งนี้ สภาพโดยรวมบนเกาะช้างพื้นที่กลางเกาะเป็นภูเขาและป่าดิบชื้น มีที่ราบอยู่ตามขอบเกาะก่อนถึงชายหาดของอ่าวต่าง ๆ ที่ราบเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นสวนมะพร้าว สวนยางพารา และสวนผลไม้อื่น ๆ แต่ส่วนใหญ่แล้วพื้นที่ของเกาะช้างเป็นภูเขาสูง มีหินผาสลับซับซ้อน ยอดเขาที่สูงที่สุด ได้แก่ ยอดเขาสลักเพชร อันเป็นแหล่งกำเนิดของน้ำตกและลำธารหลายสาย ที่หล่อเลี้ยงผู้คนและสรรพชีวิตบนเกาะ และมีพื้นที่บางส่วนที่เป็นสวนยางพาราและสวนผลไม้ด้วย

          สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะช้างก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หาดทรายขาว หาดคลองพร้าว หาดไก่แบ้, บ้านสลักคอก, อ่าวสลักเพชร – บ้านสลักเพชร,บริเวณยุทธนาวีเกาะช้าง, หาดบางเบ้า – หมู่บ้านประมงบางเบ้า ฯลฯ และมีเกาะขนาดเล็กรายล้อมอยู่อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับท่องเที่ยวเกาะช้าง คือ ช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน เพราะเป็นช่วงคลื่นลมสงบ ส่วนช่วงเวลาระหว่างเดือนพฤษภาคม-กันยายน เป็นช่วงฤดูมรสุม ทะเลมีคลื่นลมแรง โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคม ส่วนเดือนสิงหาคมมีฝนตกชุกที่สุด นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบสภาพอากาศและคลื่นลมในทะเลก่อนเดินทาง

เขาใหญ่

          เรียกได้ว่าชื่อของ เขาใหญ่ หรือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มักติดโผสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอันดับต้น ๆ ของเมืองไทยเสมอ เพราะธรรมชาติที่เขียวขจีของผืนป่า ความเย็นฉ่ำของน้ำตก ความสดชื่นขอสายน้ำ ทำให้นักเดินทางมักแวะเวียนไปท่องเที่ยว ซึ่งเขาใหญ่มีอาณาเขตครอบคลุม 4 จังหวัด คือ จังหวัดสระบุรี  นครราชสีมา ปราจีนบุรี และนครนายก อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานานาชนิด ตลอดจนมีลักษณะทางธรรมชาติที่สวยงาม ทำให้เขาใหญ่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก ในปี 2548

          สำหรับลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูง และยังประกอบด้วยทุ่งกว้างสลับกับป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ในฤดูร้อนดอกไม้ป่ามีหลากสีบานสะพรั่ง บ้างออกผลตามฤดูกาล ฤดูฝนป่าไม้ทุ่งหญ้าเขียวขจี น้ำตกทุกแห่งไหลแรงส่งเสียงดังก้องป่า และฤดูหนาวช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นฤดูที่นักท่องเที่ยวมากที่สุด ท้องฟ้าแจ่มใส ป่าไม้เขียวขจี

          ส่วนแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่, น้ำตกกองแก้ว, น้ำตกผากล้วยไม้, น้ำตกเหวสุวัต, หอดูสัตว์, น้ำตกเหวนรก นอกจากนี้ บริเวณใกล้ ๆ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวชิค ๆ อีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น Palio, The SmokeHouse, Primo Posto, ตลาดน้ำกลางดง และฟาร์มโชคชัย ฯลฯ

          ทั้งนี้ อุทยานฯ มีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว วันละ 2,000 คน ดังนั้น ผู้ประสงค์จะเข้าไปเที่ยวในอุทยานฯ กรุณาสอบถามหรือติดต่อล่วงหน้าที่ โทรศัพท์0 3736 5033, 08 1877 3127, 08 6092 6531 (ตลอด 24 ชั่วโมง)

เกาะล้าน

          ใครจะเชื่อว่าทะเลที่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไม่มากนัก จะมีน้ำทะเลที่ใสสะอาด หาดทรายขาวนวลชวนสัมผัสซะขนาดนี้ จึงไม่ต้องแปลกใจหาก เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี จะกลายเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง ที่เหล่าบรรดานักเดินทาง ต่างพากันแวะเวียนไปเยือนตลอดทั้งปี

          อีกทั้งบนเกาะล้านยังมีชายหาดที่สวยงามหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นหาดตาแหวน, หาดสังวาลย์, หาดทองหลาง, หาดแสม และหาดเทียนหาดนวล ซึ่งส่วนใหญ่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำ เพราะน้ำทะเลที่เกาะล้านนี้ใสมาก ๆ แถมยังเย็นชื่นใจอีกด้วย หรือจะเลือกไปดำน้ำดูปะการัง เล่นกีฬาทางน้ำ ไม่ว่าจะเป็น "เรือลากร่มชูชีพ" สำหรับผู้ที่ชอบหวาดเสียว "เรือสกี" สำหรับผู้ที่ชอบความท้าทาย หรือจะเลือกมันส์ไปกับ "สกู๊ตเตอร์" ก็ไม่มีใครว่า

          หากเล่นทะเลจนเบื่อแล้ว ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปกินลมชมวิวชิว ๆ กันต่อที่ "จุดชมวิวเขานม" เป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดของเกาะล้าน ตั้งอยู่บริเวณเขานมใกล้ ๆ กับหาดแสม นักท่องเที่ยวสามารถเดิน หรือใช้บริการรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างขึ้นไปชมความสวย งามของท้องทะเลสีครามกับตัวเมืองพัทยา ที่ธรรมชาติช่างสร้างสรรค์ได้งดงามกลมกลืน ดุจภาพวาดที่ทุกคนต้องประทับใจ

เกาะเสม็ด

          เกาะงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย สำหรับ เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง เสน่ห์มัดใจของที่นี่ นอกจากจะมีชายหาดขาวสะอาด น้ำทะเลเย็นใสน่าสัมผัสแล้ว ยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกทั้งยามกลางวันและค่ำคืน ที่สำคัญการเดินทางไปก็ไม่ยากนัก เพราะอยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ เท่าไรด้วยนะ นอกจากนี้ ภายในเกาะเสม็ด ยังประกอบไปด้วยชายหาดและอ่าวต่าง ๆ ที่เรียงรายยาวสุดลูกลูกตา ที่นักท่องเที่ยวต่างการันตีว่า ถ้าไปถึงแล้วแทบจะไม่อยากกลับเลยทีเดียว

          เกาะเสม็ด มีหาดทรายธรรมชาติสวยงามที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง ได้แก่ หาดทรายแก้ว อ่าวน้อยหน่า อ่าวลูกโยน อ่าวไผ่ อ่าวพุทรา อ่าวทับทิม อ่าวลุงดำ อ่าวช่อ อ่าวตะวัน อ่าววงเดือน อ่าวเทียน อ่าวหวาย อ่าวกิ่ว อ่าวปะการัง อ่าวกะรัง และอ่าวพร้าว นอกจากนี้ เกาะเสม็ดยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีที่พักหลากหลายรูปแบบจำนวนมาก ที่ราคาไม่แพงนัก จึงถือเป็นเกาะเปี่ยมเสน่ห์และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบอีกแห่งหนึ่งในปัจจุบัน

          ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับท่องเที่ยวเกาะเสม็ด คือ ช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน ซึ่งเป็นช่วงคลื่นลมสงบ ส่วนช่วงเวลาระหว่างเดือนพฤษภาคม-กันยายน เป็นช่วงฤดูมรสุม ทะเลมีคลื่นลมแรง โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคม ส่วนเดือนสิงหาคมมีฝนตกชุกที่สุด นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบสภาพอากาศและคลื่นลมในทะเลก่อนเดินทาง

เกาะสีชัง

          ถึงแม้ว่าชื่อจะน่าชัง แต่ด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ทำให้ เกาะสีชัง ติดเข้าโผสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งเกาะสีชังเป็นเกาะใหญ่ที่มีฐานะเป็นอำเภอหนึ่งของชลบุรี อยู่ห่างจากฝั่งศรีราชาประมาณ 12 กิโลเมตร เป็นที่จอดพักเรือสินค้านานาชาติ และเป็นเกาะที่น่าท่องเที่ยวในบรรยากาศแบบท้องถิ่น ซึ่งสามารถแวะท่องเที่ยวในวันเดียวหรือพักค้างคืนก็ได้ ชุมชนเกาะสีชังอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะ เป็นที่ตั้งของท่าเรือเทววงศ์ (ท่าล่าง) และเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางด้วยรถสามล้อเครื่องหรือสกายแล็ปไปยังจุดอื่น ๆ

          บนเกาะสีชังจุดท่องเที่ยวบนเกาะสีชัง ได้แก่ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่, มณฑปรอยพระพุทธบาท, ช่องเขาขาด, พระจุฑาธุชราชฐาน, หาดถ้ำเขาพัง เป็นต้น ทั้งนี้ การเดินทางท่องเที่ยวบนเกาะ เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะสีชังอยู่ห่างกันพอสมควร จะสะดวกมากหากจะเช่ารถสามล้อเครื่องจากท่าเทียบเรือไปชมสถานที่ต่าง ๆ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษก็เที่ยวได้ทั่วเกาะ ค่าเช่ารถสามล้อเครื่อง คิดเป็นรอบ ๆ ละประมาณ 150-250 บาท ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและระยะทาง

ปาย

          ไม่ติดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมคงแปลกไม่น้อย สำหรับ “ปาย” อำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน แต่ชื่อเสียงกลับไม่เล็กตามไปด้วย เพราะถือว่าเป็นอำเภอที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวมากที่สุดในจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว ในอดีตเมืองปายมักรู้จักเฉพาะกันเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งต่อมา ก็เป็นที่นิยมท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทย และเมืองปายถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

          เสน่ห์ที่ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัสเมืองปาย นอกจากธรรมชาติอันร่มรื่นแล้ว การเดินชิล ๆ บนถนนคนเดินปายก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือน ถนนชัยสงครามบริเวณท่ารถปายทั้งเส้นจะปิดการจราจร ให้นักท่องเที่ยวเดินเลือกซื้อสินค้า ทั้งจากสินค้าหัตถกรรมท้องถิ่นของชาวเขา ตลอดจนสินค้าอื่น ๆ ทั่วไป โดยเฉพาะของฝาก ของที่ระลึก เสื้อผ้า รูปภาพ โปสการ์ด ตลอดจนร้านอาหาร ที่พัก แหล่งบันเทิงต่าง ๆ จะมีอยู่เรียงรายในถนนเส้นนี้ แต่กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวยอดนิยม คือการเขียนโปสการ์ดส่งไปจากปาย จึงทำให้มีร้านโปสการ์ดและร้านกาแฟ มีอยู่ทั่วไปในถนนคนเดิน

น่าน

          จังหวัดเล็ก ๆ ที่ยังคงกลิ่นอายของศิลปวัฒนธรรมล้านนาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม จึงเป็นสิ่งดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวอยากไปสัมผัสอดีตกาล ณ น่าน ดินแดนในอ้อมกอดของขุนเขาด้านตะวันออกของภาคเหนือ อุดมด้วยธรรมชาติผืนป่า สายน้ำ ทะเลหมอก หล่อหลอมรวมกับวิถีวัฒนธรรมของผู้คนชาวไทยลื้อ ทำให้เสน่ห์ของน่านไม่ได้มีเพียงธรรมชาติอันพิสุทธิ์ แต่ยังมีศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ที่แฝงด้วยแรงศรัทธาในพุทธศาสนา และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

          ปัจจุบัน เมืองน่านยังคงดำเนินวิถีชีวิตอย่างสงบสุขและเรียบง่าย ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงพึ่งพิงเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลัก ซึ่งความเรียบง่ายเหล่านี้ เป็นเสน่ห์ที่สำคัญของเมืองน่าน ที่ทำให้ใคร ๆ ก็ต่างอยากเดินทางไปท่องเที่ยวสักครั้ง และถึงแม้จะเป็นเมืองเล็ก แต่น่านก็มีเสน่ห์เรื่องอาหารการกินอยู่ไม่ใช่น้อย มีอาหารพื้นเมืองชาวเหนือให้ได้ลองชิมกัน

          ส่วนแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในจังหวัดน่านมีหลายรูปแบบ ทั้งวัดวาอาราม โบราณสถาน แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น วัดพระธาตุแช่แห้ง, วัดพระธาตุช้างค้ำ, วัดภูมินทร์, อุทยานแห่งชาติภูคา, อุทยานแห่งชาติศรีน่าน และผาชู้ เป็นต้น โดยเฉพาะการไปชมความงดงามของ “ดอกชมพูภูคา” ดอกไม้ใกล้สูญพันธุ์ชนิดหนึ่งของโลก ที่มักออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งทั้งต้น คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมของทุกปี ณ อุทยานแห่งชาติภูคา

ม่อนแจ่ม

          นาทีนี้ไม่พูดถึง ม่อนแจ่ม คงไม่ได้ เพราะกำลังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ไปซะแล้ว ด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม มองเห็นวิวทิวเขาซับซับซ้อน แถมยามค่ำคืนฟากฟ้าแวดล้อมไปด้วยดวงดารา ส่องแสงประกายระยิบระยับ จึงทำให้ม่อนแจ่มเข้าไปอยู่ในใจใครหลาย ๆ คน

          ม่อนแจ่ม คือสถานที่พักแห่งใหม่ของโครงการหลวง เป็นพื้นที่บนสันเขาในระดับความสูงประมาณ 1,350 เมตรจากระดับน้ำทะเล ในรูปแบบแคมปิ้ง รีสอร์ท ที่กลมกลืนกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังพิเศษตรงที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เพราะเพียงแค่คุณเปิดหน้าต่าง สายลมเย็น ๆ วิวขุนเขา สายหมอก ก็โผล่รอต้อนรับ แถมยามค่ำคืนดาวน้อยใหญ่จะค่อย ๆ ส่องประกายแวววับให้มองเพลิน ๆ ซะด้วย

          แถมที่ม่อนแจ่มยังมีร้านอาหารที่นำผลิตผลท้องถิ่นที่ปลูกเอง มาปรุงให้รับประทานกันด้วย ผัก ๆ สด ๆ หวานกรอบ หาชิมยากในเมืองกรุง และถ้ากินอิ่มแล้วอยากยืดแข้งขืดขา ก็สามารถไปเดินชมแปลงสตรอเบอร์รีผลสีแดงสด...ว้าว!    

ภูทับเบิก

          แปลงปลูกกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทะเลหมอกขาวโพรนไกลสุดลูกหูลูกตา คงเป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริงนักสำหรับ “ภูทับเบิก” จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ มีความสูงจากระดับทะเลประมาณ 1,768 เมตร และมีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา มีอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูง จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล ตอนเช้ามีกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์

          ปัจจุบัน ภูทับเบิกเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ซึ่งได้อพยพมาอาศัยอยู่ที่บ้านทับเบิก หมู่ 14 และหมู่ 16 โดยอยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ ในราวเดือนธันวาคม-มกราคม จะมีดอกซากุระหรือนางพญาเสือโครงสีชมพูบานสะพรั่งไปทั้งภูเขา

          นอกจากนี้ ในยามค่ำคืนยังมองเห็นแสงไฟระยิบระยับจากบ้านเรือนในอำเภอหล่มสักที่อยู่เบื้องล่าง เปรียบได้กับ “ดาวบนดิน” จากสภาพดังกล่าว ทำให้ภูทับเบิกเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และดึงดูดนักท่องเที่ยวที่นิยมสัมผัสบรรยากาศหนาวเย็น วิถีชีวิตชาวเขา และแหล่งธรรมชาติบริสุทธิ์ ภายใต้คำกล่าวที่ว่า “นอนทับเบิก สัมผัสความหนาว ดูดาวบนดิน”

ดอยอ่างขาง

          อาจเพราะอากาศบนดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่ หนาวเย็นตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม อากาศจะเย็นจนน้ำค้างกลายเป็นน้ำค้างแข็ง แถมดอกไม้นานาพันธุ์ยังสับเปลี่ยนหมุนเวียนออกดอกบานสะพรั่งไปทั่วทั้งดอย เช่น ต้นดอกนางพญาเสือโคร่ง อีกทั้งมีกิจกรรมท่องเที่ยวหลายอย่างที่สามารถทำได้ เช่น เดินเท้าศึกษาธรรมชาติ ขี่ล่อล่องไพร เป็นต้น จึงไม่แปลกที่ดอยอ่างขางจะเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี

          ส่วนสถานที่น่าสนใจบนดอยมีหลายแห่ง ได้แก่ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง มีพรรณไม้ที่ปลูกมากมาย เช่น ไม้ผลอย่างบ๊วย ท้อ พลัม พลับ กีวี กาแฟพันธุ์อาราบิกา, ไม้ดอก เช่น แกลดิโอลัส เยอบีราพันธุ์ยุโรป สแตติส, ผัก เช่น ซูกินี เบบีแครอต กระเทียมต้น หอมญี่ปุ่น ผักกาดฝรั่ง ถั่วแดงหลวง ฯลฯ นอกจากนี้ ที่สถานีฯ ยังเป็นแหล่งเที่ยวชมวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้านชาวไทยภูเขาต่าง ๆ ได้แก่ เผ่ามูเซอดำ ปะหล่อง และจีนฮ่อ รวมทั้งชมความงามตามธรรมชาติของผืนป่า กิจกรรมดูนกซึ่งมีนกทั้งนกประจำถิ่นและนกหายากต่างถิ่น

          พร้อมผลิตภัณฑ์จากงานวิจัย งานส่งเสริมเกษตรกรจำหน่ายใต้ตราสินค้า "ดอยคำ" และที่พักทั้งในรูปแบบรีสอร์ท บ้านพักแบบกระท่อมและลานกางเต็นท์พร้อมอาหารและเครื่องดื่มบริการ, สวนบอนไซ อยู่ในบริเวณสถานีฯ เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้เขตอบอุ่นและเขตหนาวทั้งในและต่างประเทศ และจุดชมวิวกิ่วลม ที่สามารถชมทะเลหมอกและวิวพระอาทิตย์ทั้งขึ้นและตก มองเห็นทิวเขารอบด้านและหากฟ้าเปิดจะมองเห็นสถานีเกษตรหลวงอ่างขางด้วย