วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2555

คำขู่โจรใต้ได้ผล นราฯ-ปัตตานีร้างสนิท

 
ชายแดนใต้เงียบเป็นเมืองร้าง เหตุชาวบ้านไม่มั่นใจการรักษาความปลอดภัยของ จนท. พร้อมติงตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปักหลักเฝ้า ไม่ใช่แค่โผล่ให้ผู้ใหญ่เห็นหน้าเสร็จ จากนั้นก็หายหัวหมด
วันนี้ (5 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่โจรใต้ประกาศขู่ให้พ่อค้าแม่ขายหยุดกิจการทุกวันศุกร์ มิฉะนั้นจะไม่รับรองความปลอดภัยแก่ผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืน จนส่งผลทำให้ผู้ประกอบการร้านค้าต่าง ๆ ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ต้องปิดป้ายหยุดไปกว่า ร้อยละ 70  ทำให้ย่านธุรกิจที่สำคัญ ๆ ของแต่ละอำเภอต้องกลายสภาพเป็นเมืองร้างไปโดยปริยาย ถึงแม้จะมีตำรวจ ทหาร แบ่งกำลังเดินออกประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ผู้ประกอบการเกิดความมั่นใจแล้วก็ตาม ที่เป็นปัญหาสำคัญคือ รถตู้โดยสารที่วิ่งรับส่งประชาชนจากสถานีขนส่ง จ.นราธิวาส ถึงปลายทาง จ.ยะลา จ.ปัตตานี และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จำนวนกว่า 300 คัน ได้หยุดวิ่งรถในวันนี้ทั้งหมด


จากการสอบถาม นายสุวัฒน์ แซ่จู ประชาชนที่เดินทางมาใช้บริการ ทราบว่า เมื่อรถตู้ปิดให้บริการ ก็จำเป็นต้องซื้อตั๋วรถทัวร์สายกรุงเทพฯแทน เพื่อเดินทางไปทำธุระที่ จ.สงขลา แม้จะล่าช้ากว่ารถตู้ แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ต้องยอมรับและปรับสภาพให้ได้

ขณะเดียวกันที่ จ.ปัตตานี ผลกระทบจากการขู่ประกาศก็ส่งผลต่อชีวิตประจำวันของชาวบ้านเช่นกัน โดยที่ บริเวณตลาดเทศวิวัฒน์ 1 ซึ่งเป็นตลาดสดเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ที่ปกติจะมีพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อของกันจนแน่นตลาด ในวันนี้บรรยายเต็มไปด้วยความเงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด ทั้งตลาดเหลือสินค้าวางจำหน่ายเพียง 10 แผงเท่านั้น นอกจากนี้ภายในตัวเมืองก็มีสภาพไม่ต่างกัน ร้านค้าต่างๆหยุดกิจการทั้งหมด ตามเส้นทางสัญจรก็ไม่มีผู้คนออกมาเดิน เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลของคำขู่
จากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าได้ความว่า เมื่อช่วงเช้ามีผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องเดินทางมาให้กำลังใจชาวบ้าน โดยมีตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เฝ้าตรวจตราอย่างเข้มงวด แต่ปรากฏว่า พอผู้ใหญ่เดินทางกลับ เจ้าหน้าที่ก็หายไปหมด ทำให้ความรู้สึกหวาดระแวงเกิดขึ้นอีกครั้ง จนในที่สุดต้องเก็บข้าวของปิดร้าน เพื่อความปลอดภัย จึงอยากฝากจึงหน่วยงานความมั่นคงให้ดูแลชาวบ้านตาดำๆให้นานกว่านี้ ไม่ใช่เพียงแค่ให้ผู้ใหญ่ที่มาตรวจเห็นเท่านั้น

โผล่อีก!เด็ก'สูบกัญชา'โชว์เฟซบุ๊ก

ภาพจาก คมชัดลึก
ภาพจาก คมชัดลึก


โผล่อีกภาพเนตรนารี ม.ต้น โชว์สูบบ้องโชว์เฟซบุ๊ก "พงศพัศ" ขึ้นเหนือตามคืบหน้าภาพสอนเด็กสามขวบเสพยาบ้า เผยประสานไอซีทีแกะรอยมั่นใจไม่นานได้ตัวผู้ใหญ่ใจร้าย
              
5ต.ค.2555 ความคืบหน้าหลังภาพสอนเด็กหญิงวัย 3 ขวบ เสพยาบ้าถูกแชร์ว่อนเฟซบุ๊กสร้างความสลดใจให้กับผู้ที่พบเห็น ล่าสุดวันที่ 5 ต.ค.พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด  (ป.ป.ส.) เดินทางไปที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อสอบถามนายอดุลย์ สิงห์แก้ว เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยแม่โจ้ ผู้แชร์ภาพดังกล่าว พร้อมติดตามความคืบหน้าในการตามหาต้นตอผู้นำภาพสะเทือนใจดังกล่าวมาโพสต์ลงเฟซบุ๊ก 

 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากภาพผู้ใหญ่สอนเด็กสามขวบเสพยาเสพติดที่ตำรวจกำลังติดตามหาคนโพสต์ ล่าสุดยังพบภาพนักเรียนหญิงวัยรุ่นอายุประมาณ 13-15 ปี ในชุดเนตรนารีมีลายสักที่ขาขวากำลังนั่งสูบกัญชาจากบ้องกัญชาที่ดัดแปลงจากขวดชาเขียวยี่ห้อดัง ในภาพมีเพื่อนหญิงวัยเดียวกันอีกคนหนึ่งอยู่ใกล้ ๆ โดยภาพดังกล่าวถูกโพสต์เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "เรื่องนี้ถึงสรยุทธแน่" ซึ่งเป็นผู้ใช้เฟซบุ๊กรายเดียวกับที่โพสต์ภาพผู้ใหญ่สอนเด็กสามขวบเสพยาบ้า ล่าสุดชุดสืบสวนพบแล้วว่าผู้ใช้รายนี้อยู่ใน จ.สุโขทัย ซึ่งตำรวจได้เข้าสอบสวนเบื้องต้นแล้ว ขณะที่เจ้าตัวอ้างในเฟซบุ๊คว่าได้คุยกับตำรวจและให้ข้อมูลไปแล้ว  

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ภาพที่ปรากฏออกมาสร้างความรู้สึกสะท้อนใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านการปราบปรามยาเสพติดและผู้ที่ทำงานด้านการดูแลเด็กและเยาวชน ภาพที่เกิดขึ้นเห็นชัดเจนว่าเด็กอยู่ในอันตราย ซึ่งเป็นผลสะท้อนจากการแพร่รระบาดของยาเสพติด ขณะนี้ตำรวจภูธรภาค 5 กำลังตรวจสอบที่มาของภาพและดูว่าใคร เข้ามาเกี่ยวข้องซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด ทั้งนี้ได้ขอความร่วมมือจากตำรวจภูธรภาค  5 และ ปปส.ภาค  5 ร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ต้องหาให้ได้ว่าภาพมาจากไหนและต้องหาตัวคนโพสต์มาให้ได้ เราต้องดูแลปกป้องเด็กและ เยาวชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของยาเสพติด

เลขาธิการป.ป.ส.กล่าวอีกว่า สำหรับนายอดุลย์ซึ่งเป็นผู้แชร์ภาพดังกล่าว จากการพูดคุยยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาร้าย แต่ต้องการสะท้อนให้สังคมได้ตระหนักถึงผลร้ายของยาเสพติด  ส่วนการสืบหาที่มาของภาพได้ประสานไปยังกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เบื้องต้นได้รับการยืนยันว่าภาพดังกล่าวไม่ใช่ภาพตัดต่อและยืนยันได้ในระดับหนึ่งว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงซึ่งหลังจากนี้ตำรวจภูธรภาค 5 จะเดินหน้าตรวจสอบและดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และ มั่นใจว่าจะใช้เวลาไม่นานในการสืบหาต้นตอภาพนี้

วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2555

โจรใต้ขู่ชาวไทยพุทธห้ามขายของวันศุกร์


โจรใต้เหิม บุกร้านค้าชาวไทยพุทธ ในเขตเทศบาลนครยะลา ข่มขู่ห้ามขายของวันศุกร์ เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวคนร้าย
จากกรณีที่มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ประกาศห้ามไม่ให้ชาวบ้านออกมาขายของ และออกไปทำงานในวันศุกร์ ซึ่งที่ผ่านมานั้น ยังมีชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เป็นพี่น้องชาวไทยพุทธ และพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน ยังคงมีการเปิดร้านขายของอย่างปกติ ทำให้เกิดความหวาดกลัว และความเป็นห่วงในความไม่ปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก

และในเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งจากพ่อค้ารายหนึ่งภายในเขตเทศบาลนครยะลา

ซึ่งเป็นคนไทยพุทธ ได้แจ้งว่า มีชายจำนวน 3 คน ซึ่งนั่งมาในรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนได้มาจอดรถที่หน้าร้านและ 1 ใน 3 ได้เดินเข้าไปในร้านพร้อมข่มขู่ไม่ให้ขายของในวันศุกร์ หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังจุดตรวจต่างๆ เพื่อหาตัว และติดตามกลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อไป

ชาวบ้านหาดบางแสน แห่จับปูที่มากับขยะจำนวนมหาศาล

ขยะจำนวนมหาศาล ลอยติดชายหาดบางแสน ระยะทางยาวเหยียดกว่า 4.5 กม. เกิดปรากฏการณ์ปูจำนวนมากน็อคน้ำมาพร้อมขยะ ชาวบ้านแห่จับสนุกสนาน
วันนี้ ( 4 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าตรวจสอบบริเวณชายหาดบางแสน  ต.แสนสุข  อ.เมือง  จ.ชลบุรี 
หลังทราบว่าบริเวณชายหาดมีขยะจำนวนมหาศาลลอยติดชายหาด  เป็นระยะทางยาวกว่า 4.5 กิโลเมตร  โดยเศษขยะทั้งหมดประกอบด้วยผักตบชวา  ไม้ไผ่  ขยะพลาสติก  และขยะจำพวกที่ใช้ในครัวเรือน  นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ทำให้ชาวบ้านตื่นตาตื่นใจกับเหตุการณ์ในครั้งนี้คือมีปูทะเล  ปูแป้น  ปูม้า  ปูแสม  จำนวนมากลอยมากับเศษขยะดังกล่าวด้วย  ส่งผลให้ชาวบ้านแห่นำกระป๋อง  และกะละมังมาจับปูกันเป็นจำนวนมาก
 

ด้านนางรัตนา  ชูกลิ่น  ผู้อำนวนการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม  เทศบาลเมืองแสนสุข  กล่าวว่า

  เหตุการณ์ขยะจำนวนมหาศาลที่ลอยมาติดชายหาดบางแสนนั้นมีสาเหตุมาจากการที่พื้นที่บริเวณสมุทรปราการ  และบางปะกง  ทำการขุดลอกคูคลองเพื่อระบายน้ำป้องกันน้ำท่วม  ส่งผลให้เศษขยะดังกล่าวลอยมาตามน้ำ  ประกอบกับพื้นที่บริเวณชายหาดบางแสนเป็นอ่าวที่รับน้ำจากแม่น้ำบางปะกง  น้ำที่ไหลเข้าทะเลบางแสนจึงพัดพาเอาขยะทั้งหมดมาด้วย  ซึ่งทางเทศบาลได้ทำการขอร้องพื้นที่ต้นน้ำให้งดทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำไปหลายรอบแล้วแต่ก็ยังไม่ได้รับความร่วมมือ  และในส่วนของการเก็บกู้พื้นที่ให้ปลอดจากขยะนั้นคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันนี้  เพื่อรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของชายหาดบางแสน  และป้องกันขยะเน่าเสียส่งกลื่นเหม็น
 

ในส่วนของนายสงกรานต์  แสงจันทร์  ประมงจังหวัดชลบุรี  ได้ให้ความเห็นถึงการที่ปูจำนวนมากลอยขึ้นมาพร้อมขยะจำนวนมหาศาลว่า

สาเหตุเกิดมาจากการที่มีน้ำจืดปะปนกับน้ำเค็มในทะเลมากเกินไปจากการที่ฝนตกมากในช่วงนี้  และจากการระบายน้ำจืดลงทะเลเพื่อป้องกันน้ำท่วม  ส่งผลให้ปูและสัตว์ทะเลชนิดต่าง ๆ ลอยเหนือน้ำหรือที่ว่า "น๊อคน้ำ" และคาดการณ์ว่าหากทะเลบางแสนโดนผลกระทบของพายุเกมีที่จะเข้าไทยในวันที่ 5-8 ต.ค.นี้  จะมีสัตว์ทะเลอีกเป็นจำนวนมากลอยเหนือน้ำ  ซึ่งประชาชนสามารถจับไปปรุงอาหารรับประทานได้ตามปกติเนื่องจากเป็นสัตว์ที่เสียชีวิตจากการน๊อคน้ำไม่ได้โดนสารพิษที่เป็นอันตรายแต่อย่างใด

วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ปภ.เตือน30จังหวัดเสี่ยงเตรียมรับมือพายุ

ปภ.เตือน30จังหวัดรับมือน้ำป่า-ดินถล่มจากอิทธิพล"พายุเกมี"ช่วง6-7ต.ค. กทม.เรียกผอ.50เขตถกเตรียมการรับฝนหนัก
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กล่าวว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่าจะมีพายุโซนร้อน "เกมี" เคลื่อนผ่านประเทศลาวตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางของประเทศไทยในช่วงวันที่ 6-7 ต.ค.นี้ ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นและฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่

ทั้งนี้ขอแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ลาดเชิงเขา ที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ ทางน้ำไหลผ่าน

เตรียมความพร้อมกับสถานการณ์ฝนตกหนักที่จะทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม โดย 30 จังหวัดที่อยู่ในจุดเสี่ยง คือ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ สุพรรณบุรี กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ชลบุรี ระยอง ตราด ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง ระนอง และสตูล

ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร (กทม.)

ได้ลงพื้นที่ตรวจการเปิดประตูระบายน้ำแสนแสบ-มีนบุรี ตอนประชาร่วมใจ เขตมีนบุรี ในการระบายน้ำพื้นที่ฝั่งตะวันออกโดยกล่าวว่า ขณะนี้ประตูระบายน้ำดังกล่าวเปิดอยู่ที่ 40 เซนติเมตร ซึ่งเป็นระดับที่เปิดอยู่แล้วตามปกติ เพื่อระบายน้ำในพื้นที่เขตหนองจอกและมีนบุรี ออกไปยังคลองแสนแสบและอุโมงค์ระบายน้ำพระรามเก้าลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และบางส่วนจะผันออกไป จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนจะออกสู่อ่าวไทย

"ในสัปดาห์หน้า กทม.จะพิจารณาเพิ่มระดับบานประตูให้สูงขึ้น หลังจากที่มีรายงานว่าพายุเกมีจะเคลื่อนเข้าไทย รวมทั้งจะประสานกรมชลประทานให้ช่วยเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลด้วย เพื่อช่วยเหลือและลดผลกระทบของประชาชนในพื้นที่ฝั่งตะวันออกและจังหวัดปทุมธานี"ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าว

นอกจากนี้ในวันที่ 3 ต.ค. ได้เรียกผู้อำนวยการเขต 50 เขต เข้าหารือเตรียมความพร้อมรับมือฝนตกในสัปดาห์หน้า รวมทั้งหามาตรการแก้ไขปัญหาชุมชนนอกคันกั้นน้ำอย่างครบวงจรในระยะยาว

"ราชบัณฑิต" ยืนยันไม่แก้คำยืมจากภาษาอังกฤษ


"ราชบัณฑิตยสถาน" แจงว่าไม่มีการแก้ไขคำยืมจากภาษาอังกฤษในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 รวมทั้งยังไม่มีมติให้แก้ไขรูปแบบการเขียนคำยืมจากภาษาอังกฤษตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 ตุลาคม ที่สนามเสือป่า น.ส.กนกวลี ชูชัยยะ เลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน กล่าวว่า

ตามที่ได้มีประชาชนจำนวนมากแสดงความห่วงใยเรื่องรูปแบบการเขียนคำยืมจากภาษาอังกฤษในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ผ่านสื่อต่างๆ นั้น ราชบัณฑิตยสถานขอขอบคุณและขอชี้แจงว่า ราชบัณฑิตยสถานได้ถือหลักการเขียนคำในภาษาต่างประเทศ ตามพระดำริของ พลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ อดีตนายกราชบัณฑิตยสถาน ว่า การเขียนคำในภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษออกเสียงไม่แน่นอน จะออกเสียงอย่างไรย่อมแล้วแต่ประโยค เสียงจะสูงต่ำก็แล้วแต่ตำแหน่งของคำในประโยค จึงทรงเห็นว่าไม่ควรใช้วรรณยุกต์กำกับตามเหตุผลดังกล่าว

เลขาธิการราชบัณฑิตยสถานกล่าวต่อไปว่า ในปัจจุบันราชบัณฑิตยสถานมีราชบัณฑิตสาขาวิชาต่างๆ 84 คน

ภาคีสมาชิกสาขาวิชาต่างๆ 80 คน และมีคณะกรรมการวิชาการในสาขาวิชาการต่างๆ กว่า 90 คณะ ซึ่งอาจเสนอความเห็นทางด้านวิชาการให้ราชบัณฑิตยสถานพิจารณาได้ และศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.กาญจนา นาคสกุล ในฐานะราชบัณฑิตสาขาวิชาภาษาไทย ได้เสนอขอให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเขียนคำยืมจากภาษาอังกฤษ โดยแนะให้ใส่เครื่องหมายวรรณยุกต์ หรืออักษรสูง หรือใช้ ห นำในคำที่ไม่สามารถผันวรรณยุกต์ได้ ราชบัณฑิตยสถานจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากำหนดแนวทางการเขียนคำที่มาจากต่างประเทศ เพื่อพิจารณาเรื่องที่ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.กาญจนา นาคสกุล เสนอ คณะกรรมการฯ ได้มีมติให้ออกแบบสอบถามตามข้อเสนอของ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.กาญจนา นาคสกุล โดยสอบถามราชบัณฑิต ภาคีสมาชิก และกรรมการวิชาการของราชบัณฑิตยสถาน เพื่อรับฟังความคิดเห็นเฉพาะภายในองค์กรเป็นเบื้องต้นให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2555 และจะเสนอผลการรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวต่อสภาราชบัณฑิต ในการประชุมครั้งที่ 4/2555 ในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ.2555

"ผลการรับฟังความคิดเห็นเฉพาะภายในองค์กรของราชบัณฑิตยสถานเกี่ยวกับหลักการเขียนคำยืมจากภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะมีผลเป็นประการใด เป็นเพียงความเห็นส่วนหนึ่ง ไม่ใช่ข้อยุติ การแก้ไขคำยืมจากภาษาอังกฤษซึ่งใช้ในทางราชการ ทางการศึกษา มาเป็นเวลานาน หากมีการเปลี่ยนแปลง ย่อมมีผลกระทบสำคัญต่อการใช้ภาษาไทยของหน่วยงานราชการ นักเรียนนักศึกษา และประชาชนทั่วไป ดังนั้น จึงต้องมีการรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานและบุคคลดังกล่าวก่อน ตามหลักการพื้นฐานที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ก่อนที่จะพิจารณาดำเนินการไปในทางใดทางหนึ่ง และพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ที่ขณะนี้กำลังดำเนินการจัดพิมพ์นั้น ไม่ได้แก้ไขรูปแบบการเขียนคำยืมจากภาษาอังกฤษตามที่เป็นข่าว ส่วนความคิดเห็นของประชาชนที่ปรากฏในสื่อต่างๆ ราชบัณฑิตยสถานจะรวบรวมข้อมูลไว้เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป" เลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน กล่าว

ในตอนท้าย เลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน กล่าวย้ำว่า ไม่มีการแก้ไขคำยืมจากภาษาอังกฤษในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554

ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิมพ์ และจะเสร็จพร้อมแจกให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ส่วนราชการ สถาบันศาสนา สถาบันการศึกษา สื่อมวลชน ในต้นปี 2556 เนื่องจากได้รับงบประมาณจากรัฐบาลในโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา

วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ลำปางหนาวแล้ว!! อ.แจ้ห่มมีหมอกลงอุณภูมิลด


แจ้ห่ม ลำปาง เริ่มมีหมอกลง ขณะอุณภูมิเริ่มลดลง ยอดดอย 20 องศาฯ นักท่องเที่ยวแห่สัมผัสอากาศหนาว
ที่บริเวณถนนสายต่างๆ ในเขต อ.เมือง และ อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง บางแห่งเริ่มมีหมอกลงบ้าง ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนต้องเปิดไฟหน้ารถในช่วงเช้ากันแล้ว เพื่อเพิ่มวิสัยทัศนในการมองเห็นบนท้องถนน หลังบางพื้นที่เริ่มมีหมอกลง ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ได้มีฝนตกลงมา ทำให้อุณหภูมิในบางพื้นที่เริ่มมีอากาศเย็นลง นั่นหมายถึงการส่งสัญญาณว่าเริ่มเข้าสู่ช่วงของฤดูหนาว หรือปลายฝนต้นหนาวกำลังจะมาเยือนแล้ว ส่วนอุณหภูมิต่ำสุดของ จ.ลำปาง จากรายงานของสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง

โดยช่วงเช้าวันนี้ อุณหภมิต่ำสุดของ จ.ลำปาง อยู่ที่ 23 องศาเซลเซียส ส่วนบนยอดดอยอยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียส

ถือว่า อากาศในช่วงนี้ ที่ จ.ลำปาง เริ่มเย็นสบาย ขณะที่บรรยากาศในตัวเมืองลำปาง ก็เริ่มคึกคักแล้ว มีประชาชน นักท่องเที่ยว เดินทางนั่งรถม้าชมรอบเมืองลำปาง ท่ามกลางสภาพอากาศที่เริ่มเย็นลงอย่างต่อเนื่อง