วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555

แผ่นดินไหวทองผาภูมิ ไม่กระทบ "เขื่อนศรีนครินทร์"

ขอบคุณภาพจาก มติชน
ขอบคุณภาพจาก "มติชน"
นายดิลก ธโนศวรรย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ-บริหาร

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่บริเวณอำเภอทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ขนาด 2.9 ริกเตอร์ ซึ่งเป็นแผ่นดินไหวขนาดเล็ก เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2555 เวลา 20.04 น. นั้น เขื่อนวชิราลงกรณ ได้ทำการตรวจสอบข้อมูล และตัวเขื่อนแล้ว ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด โดยแผนดินไปในครั้งนี้ ศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากตัวเขื่อนประมาณ 37 กิโลเมตร

           
ด้านนายวนิช แสงสุวรรณ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์-บริหาร กล่าวว่า

ทางเขื่อนศรีนครินทร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลจากเครื่องตรวจวัดแผ่นดินไหวที่ติดตั้งในบริเวณเขื่อนฯแล้วเช่นกัน พบว่าไม่มีแรงกระทำมาถึงตัวเขื่อน โดยศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเขื่อนศรีนครินทร์ประมาณ 57 กิโลเมตร จึงขอให้วางใจว่า เขื่อนศรีนครินทร์ ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างไร สำหรับประชาชนที่ห่วงความปลอดภัยของเขื่อนศรีนครินทร์ หากต้องการเห็นสภาพเขื่อนศรีนครินทร์ในปัจจุบัน สามารถเข้าชมจากกล้อง CCTV ได้ที่
http://cctvsnr.egat.com       
           
ที่ผ่านมาเขื่อนทุกเขื่อนของ กฟผ.  ได้มีการดำเนินการในตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยของเขื่อนอยู่เป็นประจำอย่างต่อเนื่องมาตลอด

โดยได้นำเอาระบบตรวจวัดข้อมูลแบบอัตโนมัติ มาติดตั้งใช้งานที่เขื่อน โดยเป็นระบบตรวจวัดข้อมูล ที่ครอบคลุมข้อมูลด้านพฤติกรรมเขื่อน ข้อมูลอุตุ-อุทกวิทยา และข้อมูลแผ่นดินไหว ระบบนี้ จะสามารถประมวลผลข้อมูลเบื้องต้น แสดงผลเป็นรูปกราฟ และหากมีข้อมูลที่ผิดปกติ ก็สามารถแจ้งเตือนให้ตรวจสอบได้ทันที นับเป็นการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ ด้านการสื่อสารข้อมูลมาประยุกต์ใช้อย่างได้ผล เพื่อจะช่วยให้งานด้านความปลอดภัย สำหรับเขื่อนต่างๆของ กฟผ. มีประสิทธิภาพ ทัดเทียมมาตรฐานสากล และมีการดำเนินการตรวจสอบตามวาระ และบำรุงรักษาเพื่อความปลอดภัยของเขื่อนอย่างมีระบบและต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจได้ว่า เขื่อนทุกเขื่อนของ กฟผ. จะมีความมั่นคงปลอดภัยในการใช้งาน และมีความปลอดภัยต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ท้ายน้ำของเขื่อน

ปภ.เตือน 11 จังหวัดระวังดินโคลนถล่ม-น้ำป่าไหลหลาก

มีคำเตือนให้ 11 จังหวัด ระวังอันตรายจากดินโคลนถล่มและน้ำป่าไหลหลาก ขณะที่ 2 เขื่อนใหญ่ในภาคเหนือ ยืนยันยังสามารถรับน้ำได้อีกมาก

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือน 11 จังหวัดในภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ประกอบด้วย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ พิษณุโลก สระแก้ว จันทบุรี ตราด กาญจนบุรี ราชบุรี ระนอง พังงา และกระบี่ มีฝนตกชุกหนาแน่นจนถึงหนักมาก ซึ่งอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม จึงขอให้ประชาชนเฝ้าระวังและติดตามประกาศอย่างใกล้ชิด หากพบสัญญาณผิดปกติให้รีบอพยพออกจากพื้นที่ทันที หรือแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม มีคำยืนยันจากเขื่อนใหญ่ทางภาคเหนือ ทั้งเขื่อนภูมิพล จ.ตาก และเขื่อนสิริกิติ์ จ.ชัยนาท ยังสามารถรับน้ำได้อีกมาก
โดยเขื่อนภูมิพล มีน้ำร้อยละ 59 ของความจุ ซึ่งน้อยกว่าปีก่อนร้อยละ 36 ขณะที่มีน้ำไหลเข้าอ่างเพียงวันละ 33 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนเขื่อนสิริกิติ์ มีน้ำอยู่ร้อยละ 66 ของความจุ ซึ่งน้อยกว่าปีก่อนเช่นกัน สำหรับอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ต่างๆ พบว่ายังอยู่ในเกณฑ์ปกติ

ผลจากฝนที่ตกหนักตั้งแต่เมื่อวานต่อเนื่องถึงวันนี้ ส่งผลให้หลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ มีน้ำท่วมขัง
อาทิ เขตห้วยขวาง ลาดพร้าว กทม.ต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ขุดลอกท่อระบายน้ำ ซึ่งพบว่ามีขยะและดินโคลนลงไปอุดตันอยู่เป็นจำนวนมาก.

วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2555

“รอยล” เผย กทม.-ปริมณฑลจะฝนตกหนักต่อเนื่องถึงสิ้นเดือน


กรุงเทพฯ 25 ก.ย.-ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตรระบุว่า จะยังคงมีฝนตกหนักใน กทม.และปริมณฑลต่อเนื่องจนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้

นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร กล่าวว่า อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นเจอลาวัต

ทำให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีพายุอีกลูกหนึ่งได้ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก จึงทำให้เกิดฝนตกตั้งแต่ภาคกลางไปจนถึงภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยในวันพรุ่งนี้จะมีฝนตกหนักและเป็นบริเวณกว้างมากขึ้น จากนั้นจะค่อยๆ ลดลง และสลายตัวไปในวันเสาร์

ฝนที่ตกหนักในวันนี้ทำให้ถนนหลายสายใน กทม.เกิดน้ำท่วมขัง

ซึ่งนายรอยลระบุว่า เป็นเพราะการระบายน้ำจากท่อระบายน้ำลงสู่คลองทำได้ไม่ทันกรุงเทพมหานคร ได้แก้ปัญหาโดยการนำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำจากถนนลงคลอง ซึ่งเป็นวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ดี แต่ในระยะยาวจำเป็นต้องตรวจสอบและซ่อมบำรุงระบบท่อระบายน้ำใหม่ เนื่องจากบางจุดมีสิ่งอุดตัน บางจุดแผ่นดินทรุดทำให้ท่อระบายน้ำทรุดลงไปด้วย น้ำจึงไม่ไหลลงคลอง นอกจากนี้ การก่อนสร้างถนนในอนาคตจะต้องคำนึงถึงระดับความสูงให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้ถนนกลายเป็นสิ่งกีดขวางทางระบายน้ำ.-สำนักข่าวไทย

สหราชอาณาจักรเจอน้ำท่วมหนัก

หลายพื้นที่ของสหราชอาณาจักรเผชิญกับน้ำท่วมหลังฝนตกหนักเมื่อวานนี้  ทางการได้ออกคำเตือนน้ำท่วมหลายพื้สนที่

หลายพื้นที่ของเขตการปกครองสกอตแลนด์ ต้องเผชิญกับน้ำท่วมจากแม่น้ำไทน์  โดยทางการได้ออกคำเตือนน้ำท่วม เพราะคาดว่าระดับน้ำในแม่น้ำไทน์จะยังคงสูงต่อเนื่อง ทำให้คนงานและเจ้าของธุรกิจตลอดสองฟากฝั่งของแม่น้ำต้องช่วยกันใช้ถุงทรายก่อแนวคันกั้นน้ำ


นอกจากนี้ยังมีการพยากรณ์ด้วยว่า ชายฝั่งหลายพื้นที่ของเขตการปกครองไอร์แลนด์เหนือ และสกอตแลนด์ จะเผชิญกับลมกระโชกแรงถึง 112 กิโลเมตร/ชั่วโมงด้วย
ซึ่งหากสภาพอากาศยังเป็นเช่นนี้ต่อไปอีก 2-3 วัน ก็อาจจะมีการประกาศเตือนน้ำท่วมเพิ่มอีกหลายจุด ซึ่งล่าสุดมีการเตือนภัยน้ำท่วมแล้ว 55 จุด สำหรับภาคตะวันตกเฉียงใต้ของเขตการปกครองอังกฤษ เขตที่ราบสูงตอนกลาง เขตการปกครองเวลส์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันตกเฉียงเหนือ


ส่วนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้เกิดปรากฏการณ์ฟองสีขาว คล้ายฟองผงซักฟอกแผ่ปกคลุมชายหาดที่เมืองแอเบอร์ดีน ติดชายฝั่งทะเลเหนือ
ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ระบุว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดจากฝนตกหนักและลมแรงตีน้ำ อากาศ และอินทรียสารจำพวกแพลงก์ตอน ผสมกันจนเกิดฟอง เปื้อนติดตามอาคารบ้านเรือนประชาชน และรถยนต์ในเขตฟุตดี อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ฟองดังกล่าวไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2555

อ.สามง่ามท่วมสูง2ม.เดือดร้อน1พันครัวเรือน

ภาพจาก innnews
ภาพจาก innnews
น้ำยมเอ่อล้นตลิ่งท่วม อ.สามง่าม จ.พิจิตร สูง 2 เมตร กระทบกว่า 1,000 หลังคาเรือน ผู้ว่าฯ ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว
เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2555 ที่ผ่านมา นายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย นายวิเชียร อนุศาสนนันท์ นายอำเภอสามง่าม จ.พิจิตร ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ดูสถานการณ์น้ำท่วม ในเขตลุ่มน้ำยม ที่น้ำเอ่อล้นตลิ่ง ประกอบกับ มีน้ำไหลหลากมาจากภาคเหนือ โดยน้ำได้เข้าท่วม 3 หมู่บ้าน ของ ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร ชาวบ้านได้รับผลกระทบกว่า 1,000 หลังคาเรือน โดยระดับน้ำท่วมใต้ถุนบ้านสูงประมาณ 2 เมตร ซึ่งล้วนเป็นบ้านที่อยู่ในที่ลุ่มริมแม่น้ำยม ชาวบ้านต้องใช้เรือพายเป็นพาหนะในการเดินทาง นอกจากนี้ น้ำยังได้เอ่อล้นเข้าทุ่งนา โดยน้ำท่วมที่นา 20,000 ไร่ ซึ่งล้วนเป็นพื้นที่ที่ชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวหนีน้ำ
ไปก่อนหน้านี้แล้ว เกษตรกรจึงไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
ล่าสุด นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ประกาศให้ อ.สามง่าม เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติอุทกภัยแล้ว เป็นอำเภอที่ 4 ของ จ.พิจิตร ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมดังกล่าว ในส่วนของระดับน้ำในแม่น้ำน่าน ในเขต อ.เมือง พิจิตร น้ำยังคงอยู่ต่ำกว่าตลิ่ง 4-5 เมตร แต่ใน อ.บางมูลนาก ระดับน้ำอยู่ต่ำกว่าตลิ่งเพียงแค่ 1 เมตรเศษ สิ่งที่ชาวบ้านวิตกกังวล คือ หากมีฝนตกหรือมีพายุเข้ามาในช่วงนี้ ฝนที่ตกลงมาน้ำในท้องทุ่งนา จะไม่สามารถระบายลงสู่แม่น้ำน่านได้ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมตลาดและชุมชน แต่ขณะนี้ สถานการณ์ยังอยู่ในสภาวะปกติ แต่ชาวบ้านก็มีการเตรียมพร้อมขนย้ายสิ่งของขึ้นสู่ที่สูงแล้ว

ผวจ.แม่ฮ่องสอน สั่งด่วนทุกอำเภอจับตา 24 ชม.รับมือน้ำท่วม


นางนฤมล ปาลวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีหนังสือด่วนที่สุดถึง นายอำเภอทุกอำเภอ

ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ำริมน้ำไหลผ่านและพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัด ระมัดระวังภัยอันเกิดจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม ในระยะ 4-5 วันนี้ ผ่านทางวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่น เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้านและเครือข่ายวิทยุสมัครเล่น สถานีโทรทัศน์และเคเบิ้ลทีวี ผู้นำท้องถิ่น และอาสาสมัคร ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่

นอกจากนี้ยังกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบเขื่อน ฝาย อ่างและคันกั้นน้ำ รวมทั้งพื้นที่ของเอกชน

ที่คาดว่าจะมีประชาชนไปใช้บริการจำนวนมาก ถ้าไม่มีความมั่นคงแข็งแรง ให้แก้ไขโดยด่วน จัดเจ้าหน้าที่อยู่ปฏิบัติงานเฝ้าระวังเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นให้ แจ้งข้อมูลไปที่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจได้รับทราบโดยเร็ว เพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชนให้ทันต่อเหตุการณ์ต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

น้ำยมทะลัก3อ.พิษณุโลก-โผงเผงท่วม100หลัง

น้ำยมจากสุโขทัย เริ่มหลากท่วม 3 อำเภอพิษณุโลก บางระกำโมเดลช่วยได้ส่วนหนึ่ง ขณะที่ ชาวโผงเผง จ.อ่างทอง ได้รับผลกระทบ กว่า 100 หลังคาเรือน

นายบัณฑิต อินต๊ะ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก เปิดเผยกับ ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้ ต้องเฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำยม ที่ไหลมาจากสุโขทัยอย่างใกล้ชิด ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าแม่น้ำยมสายเก่า ส่งผลให้ 3 อำเภอของจังหวัดพิษณุโลก ได้รับผลกระทบ คือ อำเภอพรหมพิราม อำเภอเมือง และอำเภอบางระกำ ส่วนบางระกำโมเดล ได้ช่วยรับน้ำไว้ในทุ่งได้จำนวนหนึ่ง ส่วนระดับน้ำแม่น้ำยมสายหลัก มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ระดับน้ำตอนนี้ อยู่ที่ 7.20 เมตร สำหรับแผนการจัดการน้ำ คือ จะเร่งผันน้ำจากแม่น้ำยม สู่แม่น้ำน่าน ในช่วงที่ผ่านอำเภอบางระกำ ซึ่งจะส่งผลให้ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร รับปริมาณน้ำน้อยลง


ส่วนแนวทางการจัดการน้ำที่ จังหวัดอ่างทอง นายชัยพร ธรรมภักดี ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอ่างทอง เผยว่า

ขณะนี้ ปริมาณน้ำที่ผ่านอ่างทอง  มีไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ ตำบลโผงเผง ได้รับผลกระทบ มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมกว่า 100 หลังคาเรือน ส่วนพื้นที่เศรษฐกิจ ไม่รับผลกระทบแต่อย่างใด ส่วนแนวทางการบริหารจัดการน้ำนั้น เร่งผันน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาทั้งซ้ายและขวา และยืนยันว่า สามารถที่จะควบคุมสถานการณ์ได้

วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2555

ทั่วไทยฝนตกชุก

ทั่วไทยฝนตกชุก
 
กรมอุตุ เผย ทั่วไทยยังคงมีฝนตกชุก 6 จังหวัด เหนือ ตะวันออก ใต้ ฝนตกหนัก ระวังอันตราย กทม. ฝน 60 %

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันเสาร์ที่ 8 กันยายน 2555 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณภาคกลางได้เคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศพม่าแล้ว แต่แนวร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนและ ทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ชาวเรือระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมาก บริเวณจังหวัดหนองคาย สกลนคร อุดรธานี และชัยภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมาก บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-30 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

แผ่นดินไหวจีนล่าสุดดับแล้ว67คน

แผ่นดินไหวจีนล่าสุดดับแล้ว67คน
 
แผ่นดินไหวจีนล่าสุดดับแล้ว67คน
แผ่นดินไหวจีนล่าสุดดับแล้ว67คน
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานความคืบหน้า
                   เหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 5.6 ริกเตอร์ 2 ระลอก บริเวณรอยต่อพรมแดน มณฑลยูนนานและมณฑลกุ้ยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ก่อน 12.00 น. วานนี้ และมี อาฟเตอร์ช็อค ตามมาหลายครั้ง ทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุด 67 คน บาดเจ็บอีก 731 คน ประชาชนไร้ที่พักอาศัยกว่า 1 แสนคน โดยพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบมากสุด คือ เขตยี่เหลียง มณฑลยูนนาน บ้านเรือนประชาชนเกือบ 30,000 หลัง พังเสียหายชาวเมืองนับร้อยหนีตายอย่างโกลาหล มารวมตัวกันตามท้องถนนสายต่าง ๆ


               ขณะที่ ข้อความทางทวิตเตอร์ ระบุว่า อาคารหลายแห่งสั่นไหว ท่ามกลางความตื่นตระหนกของผู้คน ทางการต้องสั่งอพยพผู้คนนับแสน ๆคน ออกนอกพื้นที่เสี่ยง เกรงว่าอาจเกิดดินถล่มตามมาจากอาฟเตอร์ช็อค อย่างไรก็ดี ทางการจีนได้ทยอยจัดส่งเต๊นท์ ผ้าปู และเสื้อโค้ทไปยังพื้นที่ประสบภัยแล้ว ขณะที่นายกรัฐมนตรีเวิน เจีย เป่า ของจีน อยู่ระหว่างการลงพื้นที่ไปตรวจสอบ

วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2555

ปภ.เตือนผู้ว่า 20 จังหวัด 1-6 ก.ย. รับมือน้ำท่วมฉับพลัน


นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ.

ได้มีโทรสารด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการ 20 จังหวัดในภาคเหนือและอีสาน ได้แก่ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ว่า หลังกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเตือน ฉบับที่ 1 ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ในหลายพื้นที่ภาคเหนือ และอีสาน ระหว่างวันที่ 1 - 6 ก.ย.นี้

เพื่อให้เป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ จึงให้ทางจังหวัดเตรียมการดังนี้

1. ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบ 2. ให้ผู้ว่าฯ กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจพื้นที่เก็บน้ำ ให้มั่นคงแข็งแรง หากต้องซ่อมแซมให้เร่งดำเนินการ 3. ให้ช่วยเหลือประชาชนหากเกิดสถานการณ์ในพื้นที่ให้ทันท่วงที และ 4. รายงานผลปฏิบัติการเตรียมความพร้อม ให้ ปภ. ทราบภายใน 24 ชั่วโมง

ผวา ... (เสน่ห์)อัมพวาหาย

 





 ผวา ... (เสน่ห์)อัมพวาหาย : คอลัมน์ถิ่นไทยงาม
          ตกใจ !! ... ยอมรับว่าตกใจจริงๆ ที่รับทราบข่าวว่า ว่า "เอาแน่" ที่จู่ๆ เรือนแถวไม้เก่าแก่ริมคลองอัมพวา เคียงคู่กับตลาดน้ำยามเย็น "อัมพวา" มานานแสนนาน ต้องถูกรื้อถอนบางส่วน เหตุเพราะเจ้าของที่ ขายที่ดินบริเวณนั้นให้กับนายทุน และนายทุนที่ว่า กำลังผุดโครงการขนาดยักษ์ "ชูชัยบุรี ศรีอัมพวา(รีสอร์ท แอนด์ สปา)" เป็นโรงแรมหรูระดับ 4 ดาว ของ ชูชัย ชัยฤทธิเลิศประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมพีซ กรุ๊ป เจ้าของธุรกิจเพชรชื่อดัง มีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2555 อันที่จริงโครงการนี้ เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่เมื่อกลางปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นก็เป็นข่าวเปิดตัวไปแล้วในหลายสื่อ
ตลาดน้ำอัมพวา ... ถือเป็นตลาดน้ำยามเย็นแห่งแรก ตั้งอยู่ใกล้วัดอัมพวันเจติยาราม (จอดรถที่วัดอัมพวันเจติยารามได้) เปิดขายของทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่ 12.00 - 20.00 น. พอดีสอดรับกับช่วงวายของตลาดน้ำดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ที่อยู่เลยไปไม่ไกล

            เมื่อก่อนใครไปอัมพวา มักกลับมาด้วยความหลงใหลในความสงบ และเสน่ห์ของบ้านเรือนไม้ริมสองฝั่งคลอง ที่ยังคงรูปแบบการไปมา ค้าขายแบบเดิมๆ ทั้งร้านค้าริมตลิ่ง หรือเรือพายขายอาหารพวกผัดไท หอยทอด ก๋วยเตี๋ยวเรือ ขนมพื้นบ้าน ไปจนถึงกาแฟ โอเลี้ยง ใครไปเที่ยวก็มักไปพักตามเรือนไม้ริมน้ำ แบบอยู่กับเจ้าของบ้าน เหมือนเป็นโฮมสเตย์จริงๆ ตกเย็นก็มีเสียงเพลงสุนทราภรณ์ตามสาย ได้ยินไปตามลำคลอง
ชุมชนอัมพวาเคยได้รับรางวัลชมเชย (Honorable Mention) ด้านการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม จากองค์กรยูเนสโก ภาคพื้นทวีปเอเชียแปซิฟิก (UNESCO Asia-Pacific Heritage Award) ประจำปี 2551

               ความเรียบง่าย บวกกับวิถีชุมชนที่ กลายเป็นจุดขายของอัมพวาไปโดยปริยาย แถมด้วย "หิ่งห้อย" เป็นอีกตัวดึงดูด จนใครๆ ไปอัมพวา ก็หาโอกาสไปดูหิ่งห้อยด้วย
แต่เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น จากเรือนแถวไม้ เริ่มกลายเป็นบ้านหลังสวย สอดแทรกเข้ามาเปิดทำเป็นที่พักรองรับนักท่องเที่ยวเป็นล่ำเป็นสัน ร้านค้าเริ่มปรับรูปแบบสินค้าที่นำมาขาย ทั้งสินค้าไอเดีย แฮนด์เมด ไปจนถึงเสื้อผ้าตีตราอัมพวาตัวโต ไปจนถึงสินค้าตามตลาดนัดทั่วไป โซนตลาดน้ำอัมพวาก็อุดมไปด้วยนักท่องเที่ยว สะพานข้ามคลอง ถนนเลียบนทีช่วงเย็น อัดแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวชนิดไม่ต้องเดินก็ไหลตามกันไป
จุดลงเรือไปชมหิ่งห้อยก็คึกคัก จากเรือแจวเปลี่ยนเป็นเรือเครื่อง ที่พอตกเย็นต่างก็เร่งเครื่อง แข่งกันพานักท่องเที่ยวไปดูหิ่งห้อย พอธรรมชาติถูกรบกวนหนักๆ เข้า หิ่งห้อย ก็ค่อยๆ ลดจำนวนลง

               ร้ายไปกันใหญ่ เมื่อทุนก้อนใหญ่เข้ามา เสน่ห์แบบบ้านๆ ถูกเมินมอง เรือนไม้ 11 หลังต้องรื้อถอน แม้โซนนั้นจะอยู่เลยตลาดขึ้นไปทางบ้านครูปูรีสอร์ท ฝั่งตรงข้ามวัดพระยาญาติ(ปากง่าม) ซึ่งปกติจะเป็นย่านพักอาศัยที่เงียบสงบ ก็ตามที
ธีรภาพ โลหิตกุล ได้แสดงทัศนะไว้ในเฟสบุคส่วนตัวของเขาว่า "ผมคิดว่า คุณความดีของวิกฤต "อัมพวารันทด" และการโค่น “ปู่ลำพูต้นสุดท้ายที่บางลำพู” คือ “บทเรียน” ที่ทิ้งไว้เป็นมรดกให้ลูกหลานเราจดจำ เพราะปู่ลำพูกลายเป็นเศษขยะไปแล้ว และ... ขณะนี้ เรือนไม้ชายน้ำอัมพวาหลายหลังถูกรื้อไปแล้ว และกำลังรื้อเรียบ 11 ห้องในวันที่ 30 สิงหา เรื่องดำเนินมาไกลจนยากจะกลับไปที่จุดเริ่มต้น ....หนทางที่เหลืออยู่ คือแปรคราบน้ำตาให้เป็น "บทเรียน" ไว้เป็นภูมิคุ้มกัน ไม่ให้เกิดอัมพวา 2-3-4-5 ต่อๆไป
บทเรียนที่ว่านี้ คุณธีรภาพอธิบายไว้สั้นๆ ว่า หมายถึงเรื่อง คุณค่าแห่งอัตลักษณ์ รือสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมท้องถิ่นต้องได้รับการคุ้มครอง , การพัฒนาสู่ความทันสมัยต้องไม่ทิ้งรากเหง้าที่งดงามแต่เก่าก่อน, กฏหมายผังเมืองที่คุ้มครองพื้นที่อนุรักษ์ทางวัฒนธรรมอย่างจริงจัง, การลงโทษที่เอาจริงกับผู้ละเมิด และเมื่อรวยแล้วต้องมีสำนึกทางวัฒนธรรมด้วย

               อัมพวาในวันก่อน ฉันเห็นเธอเป็นสาวน้อยแรกแย้ม หากวันนี้เธอกลายเป็นสาวสพรั่งเพราะใครต่อใครปู้ยี่ปู้ยำ จนลืมความเป็นตัวตนของเธอไปอย่างน่าเสียดาย